xs
xsm
sm
md
lg

"เมืองทอง-บุรีรัมย์" ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ วัดแชมป์ไทยลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้วยแชมป์ไทยลีก อาจตัดสินที่เกมนี้
ผู้จัดการรายวัน 360 - ศึกแห่งศักดิ์ศรีของฤดูกาล 2017 เมื่อ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง เปิดสนามทำศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง มี 3 คะแนนเป็นเดิมพัน และอาจเป็นนัดตัดสินแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2017

การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 23 ของฤดูกาล ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2560 พบเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเอสซีจี สเตเดียม รับการมาเยือนของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่งขันเวลา 19.00น. ช่องทรูโฟร์ยู ยิงสด

ความสำคัญของเกม

เมืองทองฯ ต้องการชัยชนะเป็นอย่างมากเพื่อลดช่องว่างที่ตามหลังอยู่ 4 แต้ม ให้เหลือ 1 แต้ม ซึ่งหากพวกเขาพลาดท่าแพ้คาบ้าน จะทำให้บุรีรัมย์ ทิ้งห่างออกไปเป็น 7 แต้ม ส่งผลเสียเป็นอย่างมากในการลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ ขณะที่ "ปราสาทสายฟ้า" ก็ไม่อยากโดนคู่แข่งทำแต้มไล่จี้มาเช่นเดียวกัน

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม

ทั้งสองทีมดวลกันมาแล้วทั้งหมด 22 นัดในทุกรายการ เป็นบุรีรัมย์ ที่เหนือกว่า เอาชนะไป 9 นัด เมืองทอง ชนะ 5 นัด และเสมอกันไป 8 นัด หากนับเฉพาะในเกมลีกตั้งแต่ปี 2009 เมื่อเล่นที่เอสซีจี สเตเดียม เมืองทอง เก็บชัยเหนือบุรีรัมย์ได้ 2 นัด เสมอกัน 4 นัด และบุรีรัมย์บุกมาเอาชนะได้ 2 นัด โดยในฤดูกาลที่แล้วเป็น เมืองทอง ที่เปิดบ้านเอาชนะไป 3-2 ส่วนการเจอกันเกมล่าสุดในช่วงเลกแรก เป็นบุรีรัมย์ ที่เปิดบ้านเก็บชัยเหนือเมืองทองไป 2-0

ผลงานในเกมลีกฤดูกาลนี้ เอสซีจี เมืองทองฯ รั้งอันดับ 2 ของตาราง มี 48 คะแนน จาก 22 นัด ชนะ 15 เสมอ 3 แพ้ 4 นัด ยิงได้ 49 ประตู เสีย 19 ประตู ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รั้งจ่าฝูงของตาราง มี 52 คะแนน จาก 22 นัด ชนะ 16 เสมอ 4 แพ้ 2 โดยผลงานของ บุรีรัมย์ ในเลกสองถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ลงเล่นไปแล้ว 5 นัด ชนะรวด 5 นัด ยังไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว ซึ่งในเกมล่าสุดทีมปราสาทสายฟ้าเปิดไอโมบาย สเตเดียม เฉือนชนะ การท่าเรือ เอฟซี 1-0 ขณะที่ กิเลนผยอง บุกไปเฉือนชนะ นครราชสีมา มาสด้า 1-0 เช่นเดียวกัน

สภาพความพร้อมในเกมนี้

เอสซีจี เมืองทองฯ ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ และพลาดการลงสนามมาหลายนัดติดต่อกัน ถ้ายังไม่พร้อม คงต้องใช้งาน อดิศักดิ์ ไกรษร ต่อไป โดยจะร่วมทำเกมบุกกับ เลอันโด อัสซัมเซา และ เฮแบร์ตี้ เฟร์นานเดซ 2 ดาวยิงเลือดแซมบ้า ขณะที่ ชาริล ชัปปุยส์ ฟิตเต็มร้อย พร้อมลงดวลทีมเก่า โดยจะทำเกมแดนกลางร่วมกับ ทศวรรณ ลิ้มวรรณเสถียร และ วัฒนา พลายนุ่ม

ด้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สภาพทีมค่อนข้างพร้อมเป็นอย่างมาก เกมนี้จะได้ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ที่ได้พักมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองในเกมล่าสุด ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก โดยจะจับคู่กับ "จาจ้า" แจ็คสัน โคเอลโญ่ ในการล่าตาข่าย ส่วน โก ซุลกี คุมเกมแดนกลางร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม ขณะที่แนวรับ อันเดรส ตูเญส จะจับคู่ในแผงหลังร่วมกับ พรรษา เหมวิบูลย์ โดยมี นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เติมเกมทางฝั่งขวา และ กรกช วิริยอุดมศิริ เติมเกมทางฝั่งซ้าย

ตัวแปรสำคัญในเกมนี้

สามประสานในแดนหน้าของ เอสซีจี เมืองทองฯ เฮแบร์ตี้, เลอันโดร และ ธีรศิลป์ หรือ อดิศักดิ์ ต้องช่วยกันเค้นผลงานที่ดีออกมาให้ได้ในเกมนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าในช่วงหลังการทำประตูจะดูฝืดไปพอสมควร ขณะที่แผงหลัง อาโอยาม่า และ เซลิโอ ต้องประกบคู่กองหน้านรกแตกอย่าง ดิโอโก้ และ โคเอลโญ่ ให้ได้ นอกจากนี้ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ต้องรับมือกับแรงกดดันในยามเผชิญหน้ากับกองเชียร์ของทีมเก่าให้ได้

ด้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ความหวังของพวกเขาคือคู่กองหน้าอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ แจ็คสัน โคเอลโญ่ โดยมีทีเด็ดอยู่แนวรุกตัวใหม่ อย่าง ราฟาเอล บาสโตส ที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกมได้เสมอ ขณะที่เกมแดนกลาง โก ซุลกี และ จักรพันธ์ ต้องเอาชนะเกมแดนกลางของเมืองทอง อย่าง ชัปปุยส์ และ ทศวรรษ ให้ได้
เมืองทอง เจ้าถิ่น หวังถึง 3 คะแนน เพื่อลดช่องว่าง
หาก บุรีรัมย์ ชนะจะมีคะแนนนำ 7 แต้ม
ธีราทร บุญมาทัน จะได้พบทีมเก่าอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น