xs
xsm
sm
md
lg

นี่หรือสโมสรมืออาชีพ? / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

การที่ประเทศไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมวงแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2017 ด้วยโควตา 1+2 คือ 1 สโมสรแชมป์ลีกเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม และ 2 สโมสรจากอันดับ 2 ของลีก และแชมป์ถ้วยเอฟเอ คัพ ไปแข่งขันรอบเพลย์ออฟรอบ 2 อันประกอบด้วย เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ สุโขทัย เอฟซี ตามลำดับ นับเป็นเกียรติเป็นศรีกับวงการฟุตบอลบ้านเราพอสมควร เพราะหมายถึงหากทั้ง 3 ทีมสามารถทำผลงานได้ดี นอกจากจะเชิดหน้าชูตาให้กับแฟนบอล ยังมีส่วนช่วยยกระดับวงการฟุตบอลบ้านเรา หนำซ้ำหากผ่านเข้ารอบต่อไปไม่เพียงสโมสรจะได้เงินจาก “เอเอฟซี” ค่าคะแนนของลีกประเทศไทยก็จะสูงเพิ่มขึ้นไปด้วย (แม้ว่าปัจจุบันค่าสัมประสิทธิ์ของเราจะห่างจาก เอลีก หรือ ออสเตรเลีย ลีก ที่อยู่อันดับเหนือกว่ามากก็ตาม)

ทว่า การที่มีข่าวถึงการติดขัดของบางสโมสร เรื่องความกังวลต่อการหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน อาจส่งผลต่อการขอวีซ่าผู้เล่น รวมถึงการเดินทางโดยเครื่องบินของผู้เล่นที่ต้องเดินทางไปแข่งขันเพลย์ออฟรอบ 3 กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่ประเทศจีน วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมกับเสียงแว่วของใครบางคนพูดลอยๆ มาว่า หากว่าซื้อตั๋วบินตรงไปลงแผ่นดินมังกรใหญ่ไม่ได้ การต้องไปลงเครื่องที่ฮ่องกง แล้วบินต่อเข้าจีนอีกที มันเป็นเรื่องที่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะซื้อตั๋วสองต่อ แถมยังไม่รู้ชะตากรรมของการซื้อตั๋วกลับอีกต่างหากว่าจะต้องจ่ายสองต่อเหมือนขาไปหรือไม่ และบ่นต่อไปว่า เมื่อกลับมาแล้วในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ต้องกลับมาลงแข่งขันลีกไทยนัดแรกวันที่ 12 กุมภาพันธ์ต่อไปเลย แต่กลับใช้วิธีคิดแบบ “ศรีธนญชัย” ว่า ยอมแพ้บายอาจเสียค่าปรับเพียง 7 แสนบาท

พอเรื่องนี้ไปรู้ถึงหูคนในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็มีการว้ากเม้งแตกกันยกใหญ่ ว่าหากมีการถอนตัวขอยอมแพ้บายนี่เครื่องใหญ่แน่ ไม่ใช่มานั่งภูมิใจว่าเสียค่าปรับแค่ 7 แสนบาท แต่ประเทศชาติเสียหาย เพราะ 1. ไทยลีก ต้องโดน “เอเอฟซี” หมายหัวแน่นอน 2. โควตาที่อยากจะได้ไปลุยถ้วยเอเชียในปีถัดไปจะมีปัญหาแน่ 3. สโมสรที่ถอนตัวมีแนวโน้มว่าจะโดนลงโทษ ทั้งปรับ และอาจถึงขั้นโดนแบนกันหูตูบเลยทีเดียว เท่านั้นแหละ งานนี้มีเด้งกันทั้งเมืองมรดกโลก รีบส่งเอกสารทำวีซ่า แถมยังควักกระเป๋าซื้อตั๋วให้ทีมงานและนักฟุตบอล 27 ชีวิตเดินทางไปเลย ใครไปก่อนได้ไป ใครไปที่หลังก็ต้องยอม เพราะไม่มีตั๋วให้จับไปทีเดียวทั้งทีม

ส่วนเรื่องที่บอกว่า กลับมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ก็ต้องเล่นลีกไทยวันที่ 12 กุมภาพันธ์ แล้วทำมาบ่นกระปอดกระแปดว่านักเตะอาจล้า ถามเจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลฯ เขาก็บอกว่าจะบ้าเหรอ ทีมแข่งถ้วยเอเชียวันที่ 7 กุมภาพันธ์ จะมากลับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ แล้วระหว่างนั่นพี่นั่งทำอะไรกันที่เมืองจีน อีกทั้งตัวเองรู้โปรแกรมกันมาตั้งนาน ทั้งโปรแกรมแข่งแชมเปียนส์ลีก และโปรแกรมไทยลีก จากเดิมลีกแข่งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ แต่เลื่อนมาเป็น 13 กุมภาพันธ์ นี่ก็ช่วยเหลือเต็มที่แล้ว และก่อนตรุษจีนทั้งที่รู้ว่าหากชนะทีมจากพม่า ก็ต้องไปจีน ทำไมไม่ทำเรื่องขอวีซ่าให้เรียบร้อย มารออะไรถึงป่านนี้

สุดท้ายพอโดนด่าหนักๆ ทั้งจากแฟนบอล และผู้บริหารสมาคม ก็ไม่รู้จะไปออกทางไหน เลยต้องโยนใส่บรรดาสื่อทั้งหลายว่าไปเอามาจากไหน เราไม่มีทางยอมแพ้ เราทำทุกอย่างเพื่อศักดิ์ศรีประเทศชาตินะ เสียเท่าไหร่เอาอย่างไรก็ตามไปแข่งขันให้ได้

ใครก็รู้ว่าโอกาสผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มศึกแชมเปียนส์ลีกปีนี้ มันยาก เพราะการเจอกับทีมคู่แข่งที่มีดาวเตะระดับโลก ทั้ง ฮัค กองหน้าชาวบราซิล แถมยังมี ออสการ์ อดีตมิดฟิลด์จากเชลซี ร่วมทีมด้วย ภายใต้การคุมทีมของ อังเดร วิลลาส-โบอาส อดีตกุนซือที่เคยผ่านงานกับ เอฟซี ปอร์โต, เชลซี และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ นั้นสาหัสเพียงใด ทว่า การที่ตัวเองไม่ยอมรับรู้ว่าการบริหารงานแบบสโมสรฟุตบอลอาชีพเป็นเช่นไรนั้นยากยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง...

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น