เอเยนซี - “สิงโตคำราม” อังกฤษ คือชาติที่โชว์ฟอร์มได้ดุดันที่สุดในรอบคัดเลือก ยูโร 2016 กับชัยชนะ 10 นัดรวด อย่างไรก็ตามผลงานนั้นยังเป็นที่กังขาว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน เนื่องจากที่ผ่านมาดีที่สุดคืออันดับ 3 ที่อิตาลีย้อนไปถึง 48 ปีตามด้วยรอบเซมิ-ไฟนัลที่เป็นเจ้าภาพปี 1996
ช่วงนี้เป็นโปรแกรม ฟีฟา เดย์ อังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ รอย ฮ็อดจ์สัน จะลับแข้งไปเยือน เยอรมนี แชมป์โลกปี 2014 และแชมป์ ยูโร 3 สมัยเตะกันที่กรุงเบอร์ลิน วันที่ 26 มีนาคมนี้ตามด้วยเปิด เวมบลีย์ สเตเดียม รับมือ เนเธอร์แลนด์ส อีก 3 วันให้หลัง สำหรับรอบสุดท้ายที่ ฝรั่งเศส จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคมนี้ “สิงโตคำราม” ถูกวางให้อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ รัสเซีย, เวลส์ และ สโลวาเกีย
ฮ็อดจ์สัน มีขุมกำลังนักเตะให้เลือกใช้งานล้นมือทั้งเก่าและใหม่อยู่ที่ว่าจะผสมผสานอย่างไรให้ออกมากลมกล่อมที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ที่ เลสเตอร์ ซิตี กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ สร้างเซอร์ไพรส์พุ่งขึ้นมาคั่วแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายอยู่ในขณะนี้จึงมีแข้งพาเหรดติดธงไม่น้อย
ดังนั้นลองมาดูรูปแบบการเล่นที่สื่ออังกฤษเดาใจ ฮ็อดจ์สัน เริ่มที่ระบบยอดนิยม 4-4-2 ที่มีกระแสเรียกร้องให้ดร็อป เวย์น รูนีย์ ดาวยิงกัปตันทีมจากค่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะอยู่ในช่วงขาลงปีนี้ซัดไปได้แค่ 14 ประตูจาก 32 นัดรวมทุกรายการที่สำคัญตอนนี้แข้งวัย 30 ปีก็อยู่ระหว่างเยียวยาอาการเจ็บ
แฮร์รี เคน กองหน้าจาก สเปอร์ส ที่ตอนนี้กระทุ้งไปแล้ว 21 ประตูนำดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกแรก อีก 2 คนที่ต้องแย่งกันคือ เจมี วาร์ดี ผลงาน 19 ประตูกับ เลสเตอร์ ซิตี ที่รั้งจ่าฝูงขณะนี้กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา
ขยับขึ้นมาดูกองกลาง เดเล อัลลี ที่กำลังห้าวกับ สเปอร์ส คือตัวเลือกแรก เช่นเดียวกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่จะประจำการริมเส้น ส่วนตัวตัดเกมจะเป็นใครระหว่าง แดนนี ดริงก์วอเตอร์ ของ เลสเตอร์ กับ เอริค ไดเออร์ ของ สเปอร์ส ส่วนอีกคนเป็น รอส บาร์คลีย์ ที่เด่นกับ เอฟเวอร์ตัน
กองหลัง โจ ฮาร์ท มือกาวจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี ไร้คู่แข่ง ดังนั้นมาดูแผงแบ็กโฟร์ คริส สมอลลิง เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ถือเป็นแข้งหนึ่งเดียวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ติดชุดนี้คือแกนหลักจะคู่กับ จอห์น สโตนส์ ของ เอฟเวอร์ตัน ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองใน ยูโร หลังเป็นเป้าหมายของ เชลซี กับ แมนฯซิตี หรืออาจใช้ความเก๋าของ ฟิล จากิลกา จาก เอฟเวอร์ตัน แบ็กซ้าย แดนนี โรส จาก สเปอร์ส หรือ ไรอัน เบอร์ทรานด์ จาก เซาแธมป์ตัน
แนวรับของ อังกฤษ ชุดนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้นมาดูที่ระบบ 4-3-3 เน้นที่แนวรุกกันเลย รูนีย์ ถูกมองว่ายังไงประสบการณ์ที่มากที่สุดของนักเตะชุดนี้ก็ยังมีประโยชน์อาจจะคอยแจกจ่ายบอลให้ เคน หรือว่า วาร์ดี อีกตำแหน่งอาจเป็นมิดฟิลด์ที่ถูกดันขึ้นมาอย่าง สเตอร์ลิง, บาร์คลีย์, อัลลี และ อดัม ลัลลานา ของ ลิเวอร์พูล แผงมิดฟิลด์ 3 คนอาจจะต้องเน้นขยันไว้ก่อน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จาก ลิเวอร์พูล น่าจะได้โอกาสที่เหลือก็ ไดเออร์ และ แจ๊ค วิลเชียร์ ของอาร์เซนอล ถ้าหายเจ็บทันพอดี
ระบบ 4-2-3-1 ก็มีความเป็นไปได้ แต่จะใช้ใครยืนหน้าแบ็กโฟร์แน่นอนว่ามีชื่อของ ไมเคิล คาร์ริค จอมเก๋าของ แมนฯยู อีกคนน่าจะเป็นตัวรับธรรมชาติอย่าง ไดเออร์ หรือ ดริงก์วอเตอร์ เมื่อเน้นรูปแบบนี้ เคน เหมาะกับหน้าเป้าและให้ วาร์ดี สำรอง ส่วน รูนีย์ จะเป็นตัวฟรียืนอยู่หลังกองหน้า
มาดูระบบสุดท้ายที่เป็นไปได้น้อยที่สุดที่ ฮ็อดจ์สัน จะเลือกใช้คือ 4-1-3-2 รูปแบบนี้ ไดเออร์ เหมาะที่สุดจะยืนหน้ากองหลังเพราะความแข็งแกร่ง สด และขยัน แถมมีการวางบอลยาวที่ดีให้อิสระกับ 3 มิดฟิลด์คือ บาร์คลีย์, อัลลี และ วิลเชียร์ สวนกองหน้าอาจจะเป็น รูนีย์ คู่กับ เคน