xs
xsm
sm
md
lg

“ช้างศึก” ยี่ห้อ “ซิโก้” ผสมให้กลมกล่อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การบ้านของ “ซิโก้”
ASTV ผู้จัดการรายวัน – หลังจากที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตกปากรับคุมบังเหียนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ สู้ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ปลายปีนี้ ทำให้แฟนบอลจำนวนมากคาดหวังที่จะได้เห็น “ช้างศึก” โฉมใหม่ที่มีการผลัดใบต่อยอดจากความสำเร็จใน 2 ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดที่กุนซือรายนี้ปลุกปั้นขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องลุ้นว่าจะมีแข้งพลังหนุ่มกี่รายที่ดีพอจะเบียดยึดพื้นที่ 20 ที่นั่งสุดท้าย เพราะยังมีผู้เล่นซีเนียร์ที่ศักยภาพเพียบพร้อมยืนขวางทางอยู่

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจากแชมป์ ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมาร์ และ อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ ก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้ก้าวขึ้นคุม ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014” ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน ถึง 20 ธันวาคมนี้ โดย “ช้างศึก” รองแชมป์เก่า และแชมป์ 3 สมัย (ปี 1996, 2000 และ 2003) ห่างเหินโทรฟีมา 12 ปีเต็ม อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ สิงคโปร์ (เจ้าภาพรอบแรก), มาเลเซีย และ ทีมแชมป์จากรอบคัดเลือก ซึ่ง “ซิโก้” ยอมรับว่าแม้รายการนี้จะยังใช้แข้งจากชุดอินชอนเกมส์เป็นแกนหลักแต่ก็ไม่สามารถที่จะยกมาทั้งกระบิได้ จำต้องมีตัวเก๋าจากสโมสรหัวตารางคอยสนับสนุนอีก 4-5 ราย จึงต้องมาคาดการณ์กันต่อว่าจะมีใครบ้างที่ดีพอจะเลื่อนขั้นขึ้นมาในระบบ 4-3-3 ที่กุนซือวัย 41 ปี ชอบใช้

เริ่มจากผู้รักษาประตู “ตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่ได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขน ยึดหัวเสาแน่นอน โดยเป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มือกาวตัวเก๋า กับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่แย่งตำแหน่งมือสองคอยสำรอง ส่วนหลังบ้าน 4 คน แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อทั้งในนามทีมชาติและสโมสร น่าจะเบียดรุ่นพี่อย่าง “ไดร์” ปิยพล ผานิชกุล ได้อย่างสูสี จึงอาจถูกหนีบไปด้วยทั้งคู่ แต่ด้วยความคุ้นมือเป็นไปได้สูงที่ “ซิโก้” จะให้โอกาสแบ็กดาวรุ่งดีกรีแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ กับ บีอีซี เทโรศาสน ออกสตาร์ทเป็นตัวหลัก ส่วนฝั่งซ้าย “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน การันตีแล้วหนึ่งที่นั่งด้วยฝีเท้าและประสบการณ์ที่เหนือกว่ารายอื่นในตำแหน่งเดียวกัน โดยมี “บาส” พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นกำลังเสริม ขณะที่ สุริยา สิงห์มุ้ย กับ วสันต์ ฮมแสน ที่มีชื่อแต่ไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่เกาหลีใต้แม้แต่วินาทีเดียวคงตกขบวนไปตามระเบียบ

ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ต้องยอมรับว่าผลงานของ ชิติพัทธ์ แทนกลาง กับ อดิศร พรมรักษ์ ยังไม่เข้าตา ส่วน สราวุธ กัลยาณบัณฑิต ที่ไม่ได้ลงเล่นเลยหลุดโผแน่นอน มีเพียง “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ทำผลงานได้ดีและยังสามารถเล่นมิดฟิลด์ตัวรับได้ ที่มีโอกาสสอดแทรกในฐานะลูกหาบยามฉุกเฉิน ซึ่งมองว่า “ซิโก้” น่าจะเลือกใช้แข้งซีเนียร์มากประสบการณ์อย่าง ประทุม ชูทอง ธนศักดิ์ ศรีใส หรือ สุทธินันท์ พุกหอม มากกว่า

ถัดมาที่แผงมิดฟิลด์เรียกได้ว่าสอบผ่านยกชุดทั้ง ชาริล ชัปปุยส์, ปกเกล้า อนันต์, สารัช อยู่เย็น และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมถึง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อีกหนึ่งเด็กในคาถาที่จะหายเจ็บกลับมา อย่างไรก็ตาม “ซิโก้” ยังมีตัวเก๋ามากมายให้เลือกหมุนเวียนในตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น จักรพันธ์ แก้วพรม กับ ดัสกร ทองเหลา ที่เคยเรียกใช้บริการแล้วเมื่อครั้งได้โอกาสคุมทีมในเกมสั่งลา รอบคัดเลือก เอเชียน คัพ 2015 (แพ้ เลบานอน 2-5) รวมถึง อดุล หละโสะ จิรวัฒน์ มัครมย์ และ สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่โชว์ฟอร์มสม่ำเสมอกับต้นสังกัด เช่นเดียวกับปีกทั้ง 2 ข้าง นูรูล ศรียานเก็ม กับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เคยได้ออกสตาร์ทเป็นอันดับแรก โดยมี ปกรณ์ เปรมภักดิ์ กับ ภิญโญ อินพินิจ คอยสับเปลี่ยน แต่ทัวร์นาเมนต์นี้ยังมีจอมเลื้อยมากดีกรีอีกหลายรายที่พร้อมขึ้นมาเสียบแทน อาทิ จักรพันธ์ พรใส ที่ตกเครื่องไปแดนกิมจิโค้งสุดท้าย ศราวุฒิ มาสุข ฮีโร่ผู้ยิงประตูชัยคว้าเหรียญทองเนปิดอว์เกมส์ หรือ อนาวิน จูจีน

ซึ่งในแดนกลางถือเป็นเรื่องที่ “ซิโก้” ต้องตัดสินใจว่าจะดันเด็กที่เล่นกันอย่างเข้าขารู้ใจขึ้นมายกแผง หรือจะให้มีรุ่นพี่เข้ามาหนุน เพระที่แล้วมาไม้เด็ดของเจ้าตัวที่ใช้จนประสบความสำเร็จอยู่ที่จุดนี้ เปรียบเสมือนหัวใจของทีมที่คุมดักบอลและขับเคลื่อนเกมรุกสอดขึ้นมาลุ้นประตูได้อย่างลงตัว ดังนั้นเมื่อมีการผสมผู้เล่นที่ไม่ได้ซ้อมร่วมกันมานานจึงเกิดคำถามขึ้นว่าจะยังประสานงานกันได้เหมือนเดิมหรือไม่

ปิดท้ายที่ศูนย์หน้าตัวเป้า ชนานันท์ ป้อมบุปผา ที่เอ็นไขว้หน้าเข่าขวาขาดจะกลับมาไม่ทันแน่นอน ส่วน “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา หอกเบอร์ 1 ของไทย แม้จะมีข่าวว่าอาจจะถูกเรียกตัวกลับมาแต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะรายการนี้ไม่ได้อยู่ในฟีฟาเดย์ ทางต้นสังกัด อัลเมเรีย ในลา ลีกา สเปน คงไม่ปล่อยตัวมา ดังนั้น จึงเหลือเพียง “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ผู้ยิง 3 ประตูในอินชอนเกมส์ ที่การันตีล่าตาข่ายแน่นอน ส่วนตัวสำรองเป็นไปได้สูงที่พาแข้งประสบการณ์สูงอย่าง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่เล่นได้ทั้งกองหน้าและปีก

หลังจากนี้ จะมีเวลาให้ “ซิโก้” ได้เตรียมทีมไม่ถึง 1 เดือน โดยจะมีเกมลับแข้งให้ลองทีม 2 นัดคือ พบ ปาเลสไตน์ และ นิว ซีแลนด์ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นคงจะเห็นชันเจนขึ้นว่ากลมกล่อมมากน้อยขนาดไหน

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


แผงหลังยังไม่นิ่ง
ชนาธิป นำทีมแดนกลางพาเหรด
“ลีซอ” มีลุ้นติดธง
กำลังโหลดความคิดเห็น