‘บิ๊กป้อม’ วางแผนดัน ‘พปชร.’ ยิ่งใหญ่ คนในบ่นดังๆ อยากเขี่ย ‘บิ๊กป๊อก’!

‘บิ๊กตู่’ ยุบสภา-ลาออก เป็นแค่ ‘ฝันกลางวัน’ ปั่นกระแสความขัดแย้งวัคซีนโควิด-19 ไม่ขึ้นเหตุ ‘4 บิ๊ก’ พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทยเคลียร์กันจบ ด้านแกนนำแจง ‘บิ๊กป้อม’ เขย่า พปชร. จนเป็นเอกภาพ หวังสร้างความแข็งแกร่งจนเรียกติดปาก ‘พรรคบิ๊กป้อม’ เทียบชั้นพรรค ‘ทักษิณ’ แห่งไทยรักไทย มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ กวาดเรียบ ชี้หากไม่มี ‘บิ๊กป้อม’ ก็ไม่มี ‘พปชร.-บิ๊กตู่ ก็อยู่ไม่ได้’ ด้านสมาชิกบ่นดังๆ ‘บิ๊กป๊อก’ นั่ง มท.1 ในโควตาพรรค แต่ไม่เคยดูแลใคร เฝ้ารอเวลา ‘พี่น้อง 3 ป.’ เคลียร์กันเอง แจงหาก ‘ธรรมนัส’ ได้นั่ง มท.1 อะไรจะเกิดขึ้น!

สถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังถาโถมเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งวิกฤตการเมืองจากฝ่ายค้าน และม็อบกลุ่มต่าง ๆ ที่ออกมาชุมนุมขับไล่ ตามด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่สะท้อนภาพความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รวมถึงประเด็นวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลจัดซื้อมาจำนวนมาก ซึ่งผลการศึกษาชี้ชัดออกมาแล้วว่าเป็นวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพที่สุดเมื่อเทียบกับวัคซีนตัวอื่นๆ จนมีการตั้งคำถามในวงการแพทย์ว่าทำไม? รัฐบาลบิ๊กตู่ไม่หยุดซื้อวัคซีนซิโนแวค! พร้อมกับเสียงเรียกร้องของบุคลากรทางการแพทย์ที่รับมือกับโควิด-19 กระทุ้งรัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนคุณภาพมาระดมฉีดให้ประชาชนก่อนที่ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มสลาย

ไม่เพียงแค่นั้น วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมา ธุรกิจขนาดเล็ก SMEs เจ๊งทยอยปิดกิจการ แรงงานตกงาน คนยากคนจน หาเช้ากินค่ำดูจะสิ้นหวัง


สภาวการณ์ของโควิด-19 จึงเข้ามาเพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงนำไปสู่กระแสเรียกร้องให้ ‘บิ๊กตู่ หากบริหารไม่ได้ก็ให้ยุบสภาหรือลาออกไปเถอะ’

ด้านบิ๊กในพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยุบสภา หรือบิ๊กตู่ ลาออก มั่นใจได้เลยไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ แต่สิ่งที่จะเป็นไปได้ที่สุดจากนี้ไปคือ พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคที่เข้มแข็งที่สุดภายใต้หัวหน้าพรรคชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ที่จะค้ำบัลลังก์ให้รัฐบาลบิ๊กตู่ อยู่ได้อย่างมั่นคง!

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้งแล้วว่า ‘จะไม่ยุบสภา ไม่ลาออก’ แต่ก็ยังมีกระแสดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็อยากจะถามกลับว่าทำไมต้องยุบสภา ทำไมต้องลาออก เพราะการยุบสภานั้นจะต้องมีเหตุอันควร คือเกิดความขัดแย้งรุนแรงในรัฐสภา เช่น ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างฝ่ายบริหารคือรัฐบาลกับฝ่ายนิติบัญญัติคือรัฐสภา

ตัวอย่างที่เห็นคือฝ่ายบริหารเสนอร่างกฎหมายสำคัญเข้าสภา แต่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่เห็นด้วยและไม่ผ่านร่างกฎหมายให้ หรือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณไม่ผ่านสภา จึงนำไปสู่การยุบสภา หรือเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเรื่องนี้ก็มีความพยายามปั่นกระแสความขัดแย้งเรื่องวัคซีนโควิด-19 ระหว่างนายกฯ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่รับผิดชอบกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

“เขาอาจจะมองว่าภูมิใจไทยมีเนวิน ชิดชอบ คุมเกมอยู่ข้างหลัง ซึ่งเนวิน อาจจะไม่ยอม แต่เขาหารู้ไม่ว่า มีเนวิน ก็มีบิ๊กป้อม ที่เนวินเกรงใจ อะไรที่เป็นปัญหาก็ขจัดไปได้ ส่วนในเรื่องบริหาร นายกฯ กับเสี่ยหนู เขาคุยกันได้อยู่แล้ว ปล่อยให้พวกปั่นกระแสปล่อยข่าวขัดแย้งกันไป ผู้ใหญ่เขาคุยกันรู้เรื่องก็พอแล้ว”


นอกจากนี้ ยังมีเหตุอื่นที่จะยุบสภาได้อีกคือเรื่องความได้เปรียบของรัฐบาลในเรื่องความนิยมของประชาชน หรือข้อกฎหมายต่างๆ ที่มีการดำเนินการเสร็จสิ้น และการเมืองสุกงอมก่อนครบอายุสภาฯ ก็จะเลือกยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่พรรครัฐบาลเชื่อมั่นว่าสามารถกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหลังเลือกตั้ง

“แม้ตอนนี้จะยุบได้ โอกาสจะกลับมาอีกก็มี แต่อยากถามกลับว่าจะยุบไปทำไม ถ้ายุบแล้วใครจะแก้วิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดรุนแรง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ตายห่_ ซิ ประชาชนเดือดร้อนแย่ ซึ่งประชาชนอีกกี่ล้านคนไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นแต่เขาต้องการให้รัฐบาลบิ๊กตู่บริหารประเทศต่อ พวกอยากเลือกตั้ง หรือเพจต่างๆ หรือเพจหมอที่ออกมาโพสต์ให้ยุบสภา หากอยากเปลี่ยนบิ๊กตู่มากก็ทนรอไปอีก 2 ปีนะจ๊ะ เลือกตั้งครั้งหน้าก็อย่าเลือกพรรคพลังประชารัฐ ก็แค่นั้นเอง”

ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะยุบสภา หรือบิ๊กตู่ ลาออก ไม่มีทางเกิดขึ้นในเวลานี้แน่นอน!?


แหล่งข่าวระบุว่า สิ่งที่อยากให้ประชาชนติดตามดูคือการจัดทัพของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการเปลี่ยนเลขาธิการพรรค เป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา มาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพผู้ทรงพลังในการเลือกตั้งครั้งหน้า ยืนอยู่ข้างกาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ทุกฝ่ายต้องจับตามอง

“ที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร บิ๊กป้อม จะเรียกใช้ผู้กองธรรมนัส ให้ไปดำเนินการแก้ไขปัญหา เขาก็ทำสำเร็จในทุกๆ เรื่อง เลือกตั้งซ่อมภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ก็ประสบความสำเร็จ ทำให้นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัครพรรค พปชร.ชนะเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช หรือความขัดแย้งพรรคเล็ก พรรคน้อยที่ขู่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ธรรมนัส ก็จัดการสำเร็จ จนเป็นที่มาของคนเลี้ยงลิง”

อย่างไรก็ดี จุดแข็งของพรรค พปชร. ซึ่งจะทำให้พรรคโต และแข็งแรงขึ้นมาได้นั้นอยู่ที่ ‘บิ๊กป้อม’ เพราะบิ๊กป้อมเป็นศูนย์กลางของพรรคได้ดีที่สุด ทั้งเรื่องของความเก่ง มีบารมี ความเป็นผู้ใหญ่ใจดี จึงเป็นที่รักของทุกๆ คน เนื่องจากบิ๊กป้อม สามารถบริหารจัดการก๊วนต่างๆ ได้ดี ที่ผ่านมาใครๆ จะมองว่ากลุ่มสามมิตร มีพลัง ชอบต่อรอง ไม่พอใจอะไรก็เหมือนจะใช้จำนวนสมาชิกหรือปูดกระแสย้ายพรรคเป็นเครื่องต่อรอง แต่ต่อไปนี้เห็นชัดว่ากลุ่มสามมิตร จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

“บิ๊กป้อม เขย่าทุกอย่างลงตัว สามมิตรก็จะได้ แต่ไม่ใช่เรียกร้องที่จะคุมกระทรวงใหญ่ๆ ตามที่ต้องการเหมือนในอดีตได้อีก แต่จะได้ในสัดส่วนของตัวเองที่พรรคจัดให้ ส่วนกลุ่ม กทม. ก็มาขึ้นตรงบิ๊กป้อมหมดแล้ว ก็คือบิ๊กป้อม จัดการให้ทุกก๊วนอยู่ด้วยกันได้ดี”

แหล่งข่าวย้ำว่า หากวันใดบิ๊กป้อมไม่สบาย ก็จะเป็นวันที่พรรคพลังประชารัฐอ่อนแอด้วยเช่นกัน คือถ้าไม่มีบิ๊กป้อม ก็จะไม่มีพรรคพลังประชารัฐนั่นเอง!

“บิ๊กป้อม มีความสำคัญกับพลังประชารัฐมากที่สุด เพราะถ้าไม่มีหัวหน้าพรรค เป็น พล.อ ประวิตร พลังประชารัฐจบไปแล้ว ส่วนบิ๊กตู่ ก็ลอยตัวอยู่แค่นั้น จริงๆ ถ้าจะบอกว่าบิ๊กป้อม กับบิ๊กตู่ ต้องอยู่คู่กันก็ถูกต้อง เพียงแต่ว่าถ้าบิ๊กป้อม ไม่มีบิ๊กตู่ หากบิ๊กป้อม อยากจะอยู่ในเส้นทางการเมืองก็อยู่ได้สบายๆ แต่ถ้าบิ๊กตู่อยู่โดยไม่มีบิ๊กป้อมไม่ได้แน่นอน”


แหล่งข่าวย้ำว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ มีการหารือกัน และรู้ดีว่าบิ๊กตู่จะบริหารประเทศภายใต้การไม่มี ‘บิ๊กป้อม’ คุมพรรคพลังประชารัฐหนุนหลังไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งในพรรคก็ยอมรับกันว่าบิ๊กตู่ บริหารประเทศได้ดี แต่ในการบริหารทางการเมืองบิ๊กตู่สอบตก!

“บิ๊กป้อม เก่งบริหารทางการเมือง เป็นคนมีความยืดหยุ่น มีบารมีเป็นที่รักของทุกคน ประสานทั้งในพรรคและนอกพรรคได้ ซึ่งอันดับแรกต้องเป็นศูนย์รวมของคนในพรรคให้ได้ อันดับที่สอง คือ ประสานกับพรรคอื่นๆ ได้ด้วย”

อีกทั้งการที่บิ๊กป้อม เลือกผู้กองธรรมนัส เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรคเพราะมองทะลุถึงจุดแข็งที่จะส่งเสริมให้ พปชร.ยิ่งเติบโตและมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งได้เห็นวิธีการทำงานตั้งแต่อยู่พรรคเพื่อไทย อีกทั้งการมอบหมายงานให้แต่ละครั้งบรรลุเป้าหมายทั้งหมด และผู้กองธรรมนัส เป็นคนที่มีพันธมิตรมากทั้งนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น เพื่อนๆ ร่วมรุ่นนายทหาร ต่างให้การยอมรับว่าผู้กองธรรมนัส ‘ใจถึง พึ่งได้ ใช้ยุทธวิธีทหารแหลมคมทั้งบนดิน ใต้ดินสู่เป้าหมาย’ เป็นจุดเด่นที่มีอยู่ในตัวเขาทั้งสิ้น

“ธรรมนัส ดูมวลชน ดู ส.ส. เอาใจใส่ ดูแลเยอะ มีทุนหนา มีบารมี ใจถึง พึ่งได้ จึงเป็นจุดแข็งที่สำคัญมากของคนที่จะเป็นแม่ทัพพรรค ถ้าจะเปรียบเทียบกับเลขาธิการพรรคที่ผ่านมา ก็ให้นึกถึง เสธ.หนั่น (พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลและมีชื่อเสียงในอดีต แต่ปัจจุบัน ประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรแล้ว”

ดังนั้น สิ่งสำคัญในอนาคตสังคมจะได้เห็นความแข็งแกร่งของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งในอดีตเราเคยเห็นนายทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่บริหารจัดการการเมืองในพรรคได้เก่งทั้งที่มีการดึงสมาชิกจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาเป็นก๊วนเป็นมุ้งอยู่ในพรรคไทยรักไทย และสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้พรรคไทยรักไทยได้ จนสามารถชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย 

“บิ๊กป้อมเขย่าพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นเอกภาพภายในพรรคให้ได้ ซึ่งวันนี้ความเป็นก๊วนสลายไปได้มาก ก๊วน กทม.ไม่มีแล้ว การจะทำให้เป็นเอกภาพได้ ไม่ใช่อยู่ที่เงินเพียงอย่างเดียว ต้องมีบารมี ซึ่งบิ๊กป้อมครบเครื่อง ยิ่งได้ผู้กองธรรมนัส มาขับเคลื่อนตามที่บิ๊กป้อมวางไว้ เลือกตั้งครั้งหน้าจะได้พิสูจน์ว่าจะสามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้ถล่มทลายหรือไม่ และอีกไม่นานคนก็จะเรียกติดปากว่าพรรคบิ๊กป้อม ที่แข็งแกร่งและค้ำบัลลังก์ให้บิ๊กตู่อยู่ได้อย่างมั่นคงต่อไป”


ขณะเดียวกัน มีประเด็นปัญหาที่สมาชิกพรรคมีความเห็นตรงกันคือเรื่องของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรือบิ๊กป๊อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ และเป็น รมว.มหาดไทย ในโควตาพรรค พปชร. ด้วย แต่ไม่เคยให้ความสนใจหรือดูแลสมาชิกในพรรคซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร อย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

“บิ๊กป้อม รู้ดี แต่เขาไม่ใช่คนที่จะทำร้ายน้อง ส่วนบิ๊กตู่ก็ไม่พูด การที่บิ๊กป๊อก เอาแต่ตัวเอง ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่มีการขยับอะไร ก็เพราะรัฐมนตรีไม่สั่ง ข้าราชการก็ไม่ทำอะไร เรื่องนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ เพราะจริงๆ มหาดไทยเป็นกำลังสำคัญในการดูแลประชาชน ดูแลการเลือกตั้ง”

แต่ถ้าเมื่อใดจำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย มีผู้กองธรรมนัส ขยับขึ้นไปนั่งแทน จะเกิดอะไรขึ้นตามมา ยังเป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้แค่คิด แต่ไร้ซึ่งคำตอบ เนื่องเพราะเก้าอี้ตัวนี้เป็นเรื่องของพี่น้อง 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์เท่านั้น!