xs
xsm
sm
md
lg

พิกัดชัด “ธัมมชโย” กบดานยุโรป หาช่องกดดันห้ามกลับเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ล่าพระธัมมชโยในทางลับยังไม่หยุด ควานหาทั้งที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไม่พบ ส่องยุโรปพบพิกัดแน่นอนแล้วอยู่ประเทศใด หากพบเตรียมเจรจาขอให้ไม่เคลื่อนไหวสูตรเดียวกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ด้านวัดพระธรรมกายรู้แกวสร้างพระทัตตชีโวขึ้นผู้นำแทน สานกิจกรรมบุญต่อ แม้ศิษย์เอกกระเป๋าหนักถอย เบญจทรัพย์ 6 ล้านต้นหืดจับ เฟสแรกหมื่นต้นแรก ต้นละหมื่นบาท สำเร็จ เฟส 2 เกือบไม่รอดพลิกเกมขายกระถาง 1 ล้านใบ

เงียบหายไปสำหรับคดีพระธัมมชโย ที่รัฐบาลลงทุนใช้ยาแรงอย่างมาตรา 44 โดยพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายเพื่อนำพระธัมมชโยมาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560

เพื่อนำพระธัมมชโยมาดำเนินคดี ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ที่เกิดจากการทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และไวยาวัจกรของวัดพระธรรมกาย ได้โยกย้ายเงินออกมาและโอนเข้าบัญชีของพระธัมมชโย

ปิดค้นอยู่เกือบ 1 เดือนไม่พบ จนต้องยุติการค้นหาเมื่อ 10 มีนาคม 2560 และยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ไปเมื่อ 11 เมษายน 2560

ท่ามกลางเสียงเล่าลือกันว่าพระธัมมชโยหลบหนีออกไปจากนอกวัดเป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีการเข้าไปตรวจค้นในจุดอื่นตามที่สายรายงานว่าพบเห็นพระธัมมชโย สุดท้ายก็ไม่พบตัว

จากนั้นความพยายามในการนำพระธัมมชโยมาดำเนินคดีก็เงียบหายไป พร้อม ๆ กับการค่อย ๆ ฟื้นตัวของวัดพระธรรมกาย กิจกรรมบุญต่าง ๆ เดินหน้าได้ตามปกติ จนหลายคนคิดว่าคดีนี้คงจะจบลงไปแล้ว เพราะไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้

แต่ในคืนวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ได้เข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง หลังมีเบาะแสว่าพระธัมมชโยกลับเข้ามาที่วัด จากการตรวจค้นไม่พบพระธัมมชโย

พิกัดชี้อยู่ที่ยุโรป

“ภายนอกดูเหมือนคดีนี้จะเงียบไป แต่ในทางปฏิบัติยังมีทีมงานที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา” แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว

ที่ผ่านมาคณะทำงานได้เดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ที่คาดว่าพระธัมมโยจะเดินทางไปพักอาศัย ที่ออสเตรเลียมีสาขาของวัดพระธรรมกาย 5 แห่ง มีที่ซิดนีย์ 2 แห่ง เพิร์ท เมลเบิร์น ควีนส์แลนด์ รัฐละแห่ง รวมทั้งที่นิวซีแลนด์แต่ก็ไม่พบพระธัมมชโยอีกเช่นเคย

ขณะนี้ทราบมาว่าพระธัมมชโยอาจจะอยู่ที่ยุโรป เนื่องจากวัดพระธรรมกายมีสาขาในประเทศแถบยุโรปหลายแห่ง จากข้อมูลมีสาขาอยู่ใน 11 ประเทศ จำนวน 24 แห่ง แต่ไม่ได้หมายถึงเราจะเข้าไปตรวจทุกแห่ง เพราะทางการข่าวพอจะทราบว่าอยู่ในพื้นที่ใด ตอนนี้มีการส่งเจ้าหน้าที่ของคณะทำงานไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
คณะทำงานติดตามพระธัมมชโยที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่ไม่พบ
เจรจา-อย่ากลับเมืองไทย

ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า ประเทศที่คาดหมายว่าพระธัมมชโยจะหนีไปนั้น บางประเทศมีเรื่องของสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากรัฐบาลจะดำเนินการเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีก็ต้องประสานงานกับประเทศปลายทางเพื่อขอตัวกลับมา หรือหากอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจะย้ายไปประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญากับประเทศไทย ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลไทยกับประเทศนั้น ๆ

แต่ในทางความมั่นคงแล้วต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวในหลายด้าน เช่น หากนำตัวกลับมาดำเนินคดีแล้วทำให้สถานการณ์ในประเทศเกิดปัญหาความไม่สงบขึ้นมา รัฐบาลก็ต้องประเมิน อย่างคุณทักษิณ หรือคุณยิ่งลักษณ์ ถ้านำตัวมาดำเนินคดีกลุ่มที่สนับสนุนก็อาจสร้างความวุ่นวายขึ้นมาได้ อย่างที่อังกฤษก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย

ทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาล อย่างพระธัมมชโยก็เช่นเดียวกัน ศิษย์ของวัดนี้ประเมินแล้วมีราว 10 ล้านคน ถ้าพระธัมมชโยต้องถูกจับสึกและดำเนินคดีตามกฎหมาย ความวุ่นวายตามมาแน่นอน และจะกลายเป็นแรงบวกเพิ่มให้กับกลุ่มที่หนุนตระกูลชินวัตร ซึ่งเราเห็นได้ชัดว่าในช่วงที่วัดพระธรรมกายมีวิกฤต นักการเมืองสายของพรรคชินวัตรต่างพยายามออกมาปกป้อง

การยอมให้ผู้ที่หนีคดีอยู่ในต่างประเทศ แม้บางครั้งจะใช้คำพูดที่ยุยงปลุกปั่นบ้าง หากในประเทศรัฐบาลคุมสถานการณ์อยู่ก็ไม่เกิดปัญหาความวุ่นวายขึ้น กรณีแบบนี้ก็ต้องอาศัยการเจรจากัน แม้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับบางฝ่ายแต่ทั้งหมดต้องยึดที่ประเทศเป็นสำคัญ

กรณีของพระธัมมชโยก็เช่นกัน หากพบตัวก็อาจเจรจาแลกเปลี่ยนกันว่า ขอให้อยู่แต่ในต่างประเทศ ต้องไม่ทำการอันใดที่จะสร้างความวุ่นวาย โดยที่ทางการไทยอาจไม่เร่งรัดในเรื่องคดี ทุกอย่างขึ้นกับภาครัฐว่าจะเลือกดำเนินการด้วยวิธีใด
พระทัตตชีโว ถูกยกขึ้นเป็นผู้นำวัดพระธรรมกาย
รู้สถานการณ์เปลี่ยนผู้นำ

ทางวัดพระธรรมกายมีการประเมินสถานการณ์มาตั้งแต่ก่อนออกมาตรา 44 ออกโครงการสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร ตั้งเป้าสวดและเพิ่มยอดไปเรื่อย ๆ เพื่อดึงคนเข้าวัด ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากเกรงเกิดการปะทะ อย่างการเข้าไปตรวจเมื่อ 20 ธันวาคม ทางธรรมกายก็สวดธัมมจักฯ กันอยู่เช่นกัน

ภายในวัดพระธรรมกายเองน่าจะประเมินสถานการณ์นี้ได้ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าจะติดต่อรับข้อมูลหรือคำสั่งจากพระธัมมชโยโดยตรง เพื่อสานงานของวัดต่อไปภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เห็นได้จากการสร้างกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนตัวผู้นำจากพระธัมมชโยมาเป็นพระทัตตชีโว เบอร์ 2 ของวัดที่เคยร่วมก่อตั้งวัดกันมา มีการดึงเอาเรื่องพระมหาเจดีย์ทัตตชีโว จังหวัดกาญจนบุรี ที่พระธัมมชโยสร้างให้ขึ้นมา เพื่อบ่งบอกความสำคัญของพระทัตตชีโว

สะท้อนถึงทีมงานในวัดเองก็อ่านสถานการณ์ออกว่า โอกาสที่พระธัมมชโยจะกลับเข้ามาบริหารวัดพระธรรมกายเหมือนเดิมคงมีความเป็นไปได้น้อย ถึงอย่างไรอดีตเจ้าอาวาสคงไม่ยอมที่จะติดคุก การที่ยังไม่ถูกสึก แม้จะไม่ได้อยู่ในวัดหรือในประเทศก็น่าจะเป็นทางออกที่สวยที่สุด จึงต้องมีการสร้างผู้นำรูปใหม่ขึ้นมาแทน

อย่างกิจกรรมบูชาข้าวพระบุญใหญ่ของทางวัดทุกต้นเดือน จะมีการนำเสียงพระธัมมชโยมาเปิดให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมทำบุญ พร้อมด้วยพระทัตตชีโวเป็นประธานสงฆ์ ถือเป็นการค่อย ๆ สร้างการรับรู้ให้กับบรรดาลูกศิษย์ และระยะหลังจะออกมาเป็นประธานในหลาย ๆ งาน รวมถึงการจัดงานครบ 77 ปีของพระทัตตชีโวเมื่อ 21 ธันวาคม 2560 เพื่อเป็นการสร้างการยอมรับในผู้นำองค์ใหม่ของวัด

ไม่ต้องกล่าวถึงพระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทธิจินตโก ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย บทบาท บารมีและความสำคัญไม่อาจเทียบได้กับพระทัตตชีโว เป็นเพียงการตั้งให้เป็นไปตามกฎระเบียบเท่านั้น แตกต่างจากช่วงที่พระธัมมชโยเป็นเจ้าอาวาสที่มีอำนาจเต็ม
ต้นเบญจทรัพย์เปลี่ยนมาปลูกในกระถางมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ พร้อมเปิดรับบริจาค
กิจกรรมใหญ่-หืด

จากนี้ไปนับเป็นความท้าทายของผู้นำวัดพระธรรมกายรูปใหม่ ที่จะฟื้นให้วัดกลับมารุ่งเรืองเหมือนในยุคพระธัมมชโยได้หรือไม่ เมื่อเป็นวัดใหญ่ มีสาขาทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายมากตามไปด้วย ขณะที่ศิษย์เอกกระเป๋าหนักอย่างนายอนันต์ อัศวโภคิน นายบุญชัย เบญจรงคกุล และอีกหลายคน ต่างมีคดีความที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งในระยะหลังศิษย์เอกเหล่านี้หายหน้าหายตาไปจากวัดพระธรรมกาย ย่อมกระทบต่อยอดบริจาคเงินกับทางวัดไม่มากก็น้อย

แม้จะมีกิจกรรมบุญออกมาตามวาระต่าง ๆ แต่งานใหญ่อย่างโครงการปลูกต้นเบญจทรัพย์(เบญจมาศ) ในช่วงปลายปี 2560 เพื่อใช้สำหรับการโปรยทางเดินให้กับพระธุดงค์ ที่ทางวัดเตรียมจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2561 ก็ทำเอาบรรดาลูกศิษย์เหนื่อยไปตาม ๆ กัน

ชุดแรก 10,000 ต้น ไม่มีปัญหาแม้ผู้เข้าร่วมพิธีปลูกจะต้องร่วมบุญต้นละ 1 หมื่นบาทได้รูปหล่อหลวงปู่สดเป็นที่ระลึก แต่ชุดที่ 2 เป็นการปลูกให้ครบ 6 ล้านต้นลงบนแปลงปลูก 300 ไร่ กำหนดปลูกให้เสร็จสิ้นก่อนปีใหม่ ถึงจะปลูกฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ด้วยเป้า 6 ล้านต้นทำเอาต้องระดมทั้งพระ ลูกศิษย์ นักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ มาช่วยกันปลูก โดยที่ทางวัดแจ้งว่าปลูกได้ครบ 6 ล้านต้น

แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายทางวัดได้เปลี่ยนวิธีการปลูกจากเดิมที่ต้องปลูกลงแปลงปลูก มาเป็นการปลูกลงกระถาง ซึ่งทางวัดได้สั่งกระถางมา 1 ล้านใบ เพื่อปลูกต้นเบญจทรัพย์กระถางละ 2-3 ต้น พร้อมทั้งเชิญชวนให้ร่วมกันบริจาคเงินค่ากระถาง จากการตรวจสอบพบว่าการบริจาคกระถางปลูกต้นเบญจทรัพย์นั้น ทางวัดจะตั้งเป็นกองบุญ กองบุญละ 500 บาท บริจาคกี่กองทุนก็ได้

“เดิมหมื่นต้น ต้นละหมื่นบาทก็ 100 ล้านบาทแล้ว มาเปลี่ยนเป็นซื้อกระถางอีก แม้ไม่สามารถคำนวณออกมาเป็นตัวเลขได้ แต่นั่นหมายถึงทางวัดยังต้องการเงินเพิ่มเข้ามาจากโครงการปลูกต้นเบญจทรัพย์อีก”

ขยายฐานพม่า

หากสังเกตให้ดีในช่วงที่เกิดวิกฤตกับวัดพระธรรมกายนั้น ลูกศิษย์จำนวนหนึ่งหายไป หลังจากนั้นทางวัดจัดงานบุญให้กับชาวพม่าในประเทศไทย 2 ครั้ง มีชาวพม่านับหมื่นเข้าร่วมงาน และเตรียมที่จะไปจัดงานที่พม่าอีกในวันที่ 21 มกราคม 2561 นี้ และยังแจ้งข่าวชาวอินเดียนับหมื่นคนหันมานับถือพุทธศาสนา

โดยเฉพาะชาวพม่าทั้งในประเทศไทยและเมียนมาร์ ซึ่งมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก อีกทั้งความร่วมมือระหว่างวัดพระธรรมกายกับพระวีระธุ พระดังจากพม่ายังคงแนบแน่นช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด ดังนั้นฐานของวัดพระธรรมกายจึงมิได้จำกัดอยู่แค่ศิษยานุศิษย์คนไทยเท่านั้น
(ภาพประกอบ มาจากเฟซบุ๊กวัดพระธรรมกาย)



กำลังโหลดความคิดเห็น