xs
xsm
sm
md
lg

แผนลับ “ธัมมชโย-ธรรมกาย” ไม่ยอมให้จับสึก-ดึง “UNHCR” ช่วยลี้ภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แฉแผน “พระธัมมชโย-วัดพระธรรมกาย” หลังเจรจาขอมอบตัวแบบมีเงื่อนไขให้ประกันตัวได้ และห้ามจับสึก ไม่สำเร็จ งัดแผน 2 ที่เตรียมไว้มาใช้ทันที โดยมีการประสานสำนักงานใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามดูแลการใช้อำนาจของรัฐปราบพระสงฆ์-ศิษย์วัดพระธรรมกาย แจงหาก “ดีเอสไอ-ตำรวจ-ทหาร” พลาดใช้กำลังเข้าปราบปรามถึงขึ้นเป็นอันตรายต่อพระธัมมชโย จะใช้เป็นเงื่อนไข “ลี้ภัย” ในต่างประเทศทันที

ปฎิบัติการตรวจค้นเต็มรูปแบบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจและทหาร เข้าตรึงกำลังพร้อมปฏิบัติการทันที หลังจากพระทัตตชีโว ผู้มีอำนาจสูงสุดรองจากพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ซึ่งเป็นตัวแทนเจรจากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ได้ยื่นคำขาดไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกต่อไป พร้อมปฏิเสธที่จะเข้ารายงานตัวตามคำสั่งดีเอสไอ

คำปฏิเสธของพระทัตตชีโว ดูเหมือนเป็นการท้าทายอำนาจรัฐอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งใช้มาตรา 44 ในการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายไปแล้วก็ตาม

แต่สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณวัดพระธรรมกาย กลับดำเนินเรื่องไปสู่แนวทางการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะการประกาศระดมพล การใช้เครื่องกีดขวาง การใช้โซเชียลมีเดียสร้างสถานการณ์ไปในทางยั่วยุ รวมไปถึงมีพระสงฆ์ 7 รูป ออกมานั่งอดข้าวประท้วง และมีพระสงฆ์ พร้อมศิษยานุศิษย์ มาปักหลักกางเต็นท์ชุมนุมอยู่หน้าวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมาก

ด้านดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร ก็มีการเคลื่อนกำลังเพื่อเข้าตรวจค้นและจับตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีจึงเกิดการเผชิญหน้ากับพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงทางเจ้าหน้าที่ก็มีการสั่งถอยร่นออกจากพื้นที่วัด

แหล่งข่าวจากรัฐบาล เปิดเผยว่า ปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายครั้งนี้ ได้แบ่งหน้าที่กันดูแล โดยดีเอสไอ จะรับผิดชอบเข้าจับกุมพระธัมมชโย ส่วนตำรวจจะดูแลป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย และมีทหารเป็นกำลังสำคัญในการเข้าควบคุมพื้นที่ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และปรับแผนการทำงานอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง เกิดการบาดเจ็บล้มตาย เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงจะเข้าสู่ประเด็นที่ทางวัดพระธรรมกายต้องการ

“ทางการข่าวของรัฐ ก็รู้ว่าพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย กำลังทำอะไรอยู่ ส่วนธรรมกายก็รู้ว่าครั้งนี้ รัฐบาลเอาจริง ถ้าจับพระธัมมชโยได้ ก็ต้องจับสึก และต้องจัดระเบียบวัดพระธรรมกายกันใหม่ให้เป็นไปตามหลักพุทธศาสนา ไม่ใช่ปล่อยให้มีลัทธิธรรมกายแฝงตัวอยู่ในร่มพระพุทธศาสนา”

แหล่งข่าวบอกว่า พระธัมมชโย และศิษย์เอกวัดพระธรรมกาย ก็เตรียมแผนรับมือเจ้าหน้าที่รัฐไว้เช่นกัน ซึ่งวัดพระธรรมกายก็มีการประเมินสถานการณ์หรือท่าทีของทางฝ่ายรัฐด้วย ทั้งในเรื่องกำลังพล ความเด็ดขาด การเอาจริงเอาจัง ส่วนพระธัมมชโยก็ยังพักอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

อย่างไรก็ดีในช่วง 4 วันแรกคือตั้งแต่วันที่ 16-19 ก.พ.ที่มีคำสั่ง ม.44 เข้าดำเนินการนั้น วัดพระธรรมกายคงเห็นแล้วว่า ฝ่ายรัฐเอาจริง จึงมีการออกมาเรียกร้องให้รัฐยกเลิกคำสั่ง ม.44 เข้าควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย แต่คงเห็นว่าไม่เป็นผล จึงมีการติดต่อผ่านผู้ใหญ่เข้ามาว่าพระธัมมชโยจะขอเข้ามอบตัว

“เรื่องการติดต่อขอเข้ามอบตัวของพระธัมมชโย ไม่ใช่เรื่องกุข่าว แต่เป็นเรื่องจริง ซึ่งดีเอสไอได้รับการติดต่อมาหลายวันแล้ว แต่ปัญหาคือพระธัมมชโยจะเข้ามอบตัวแบบมีเงื่อนไข คือขอให้มีการประกันตัว และจะต้องไม่มีการจับสึกเด็ดขาด”

แหล่งข่าวย้ำว่า การติดต่อขอเข้ามอบตัวของพระธัมมชโยเป็นเรื่องที่ดี จะช่วยลดความรุนแรงได้ แต่ไม่ควรจะมีการตั้งเงื่อนไข แต่ควรปล่อยให้เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้พิจารณาจึงจะถูกต้อง ซึ่งจากวันนั้นทางวัดพระธรรมกายก็ไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาอีกเลย ขณะเดียวกันการข่าวของทางดีเอสไอและตำรวจ ยังมีข้อมูลหลักฐานอีกว่าทางวัดพระธรรมกายได้มีการติดต่อประสานสำนักงานใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees ,UNHCR) ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามดูแลการใช้อำนาจของรัฐต่อกรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นองค์กรทางพุทธศาสนา โดยอ้างว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความพยายามจะใช้ความรุนแรงเข้าจัดการอยู่ตลอดเวลา

“เรารู้ว่าทางธรรมกายได้ติดต่อประสานงาน UNHCR ไว้แล้ว และการกระทำของวัดพระธรรมกายและศิษยานุศิษย์ ก็เหมือนเป็นการยั่วยุให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังเข้าจัดการ ภาพเหล่านี้ก็จะปรากฏออกทางสื่อมวลชนว่ารัฐใช้กำลังเข้าปราบปรามพระสงฆ์และศิษย์วัดพระธรรมกาย ตรงนี้คือเจตนาของวัดพระธรรมกาย”

ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร จึงต้องมีความระมัดระวังในเรื่องนี้มาก เพราะหากเกิดความรุนแรงและเป็นอันตรายต่อตัวพระธัมมชโย แทนที่ทางการไทยจะนำตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีตามหมายจับได้ก็จะกลายเป็นข้ออ้างให้พระธัมมชโยขอลี้ภัยได้เช่นกัน

“เราไม่ต้องการให้พระธัมมชโยใช้เป็นข้ออ้าง มีข้อมูลที่ยืนยันได้ตอนนี้คือคนพิเศษของพระธัมมชโยได้หลบออกไปแล้วและอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคนนี้เกี่ยวข้องในเรื่องการฟอกเงินคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทางดีเอสไอ ก็จับตาดูว่าพระธัมมชโยจะเดินทางมาสมทบที่นี่หรือไม่”

ปฏิบัติการตรวจค้นและเข้าจับกุมพระธัมมชโยของดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร ครั้งนี้ แม้จะมี ม.44 คุ้มครอง แต่ก็ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐก็อาจตกเป็นจำเลยของสังคมโลก ขณะเดียวกันจะไม่สามารถดำเนินคดีกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายในข้อหาฟอกเงินและคดีอื่น ๆ ได้เช่นกัน!


กำลังโหลดความคิดเห็น