ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ม.อ.ภูเก็ต เริ่มเดินหน้า “รพ.ม.อ.ภูเก็ต” หลัง ครม.อนุมัติงบกว่า 3,000 ล้าน เป็น รพ. 500 เตียง หนึ่งในโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน คาดเปิดได้ปี 2570 เน้นการดูแลผู้ป่วยโรคซับซ้อน และเป็นการส่งต่อมาจากระบบสาธารณสุขในพื้นที่
รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี วิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบโครงการณในภาพรวม ซึ่งใช้วงเงินในการดำเนินการ จำนวน 5,116 ล้านบาท เมื่อเดือนตุลาคม 25665 โดยเป็นงบประมาณผูกพัน 5 ปี ระหว่างปีงบประมาณ 2566-2570 ภายในโครงการจะประกอบด้วย วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ ซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เป็นต้น เพื่อรองรับการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เมดิคัล ฮับ
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต รองรับการรักษาผู้ป่วยตติยภูมิ และโรคที่มีความซับซ้อน ศูนย์ทันตกรรมดิจิทัล ยกระดับแพทย์แผนไทยสู่แพทย์แผนโลก และศูนย์เทคนิคการแพทย์ ซึ่งจะเป็นต้นทางในการตรวจเช็กร่างกาย การตรวจวิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติการ การตรวจคัดกรองโรคต่างๆ ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทั้งแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่างมีมาตรฐานและทันสมัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันและประเทศไทย
“ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างโรงพยาบาล ม.อ.ภูเก็ต วงเงิน 3,140 ล้านบาท ขณะนี้ได้ผู้รับเหมาออกแบบเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 8 เดือนข้างหน้า หากเป็นไปตามห้วงเวลาดังกล่าวจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปีงบประมาณ 2567 นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2570
ตามแผนงานเดิมจะเป็นโรงพยาบาลขนาด 300 เตียง แต่ด้วยงบประมาณที่ได้รับจะมีการขยายเพิ่มเป็น 500 เตียง ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีได้ให้คำแนะนำด้วยว่า เพื่อไม่ให้ภารกิจทับซ้อนกับการให้บริการของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น ภารกิจหลักของโรงพยาบาล ม.อ.ภูเก็ต จะเน้นการดูแลผู้ป่วยโรคซับซ้อน และเป็นการส่งต่อมาจากระบบสาธารณสุขในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วยด้วยโรคซับซ้อนที่มีการส่งต่อในฝั่งอันดามัน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ มีจำนวน 13,500 ครั้ง หรือประมาณ 9,000 คนเศษ หมายความว่ามีผู้ป่วยบางรายมีการส่งซ้ำ ซึ่งถือเป็นช่องว่างของระบบสาธารณสุขในพื้นที่ และเป็นความจำเป็นที่จะต้องมีโรงพยาบาลมารองรับ”
รศ.ดร.พันธ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนั้น ได้มีการผลิตบุคลากร โดยเปิดรับนักศึกษาแพทย์ หลักสูตรนานาชาติไปแล้ว จำนวน 1 รุ่น และอยู่ระหว่างรับนักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 2 ในส่วนของพยาบาลได้มีการเปิดรับนักศึกษาพยาบาลไปแล้ว 3 รุ่น เป็นหลักสูตรนานาชาติเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรของผู้ปฏิบัติงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะอีกกว่า 25 หลักสูตรด้วย