ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตผนึกกำลังเปิดตัว Together Phuket Stepping Forward : ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน พร้อมกลับมาผงาดบนแผนที่ท่องเที่ยวโลก ด้านนายกสมาคมท่องเที่ยวตอกย้ำ ภูเก็ตเดินต่อได้นักท่องเที่ยวเข้าวันละหมื่นคน รายได้กระจายถึงทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมทาวน์ฮอลล์ ล้อมวงพูดคุยเพื่อผลักดันก้าวต่อไปของภูเก็ต กับแคมเปญ “Together Phuket Stepping Forward : ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน” ชูประเด็น “ภูเก็ตน่าเที่ยว ปลอดภัย เข้าง่าย กระจายรายได้ถึงมือทุกคน” รวมทั้งขานรับนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศกลุ่มความเสี่ยงต่ำ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้
โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมนำการพูดคุยเรื่องก้าวต่อไปจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ กับโครงการต่างๆ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของภูเก็ตกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในทุกภาคส่วน โดยมี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต นพ.บัญชา ค้าของ ที่ปรึกษาโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมพูดคุยถึงก้าวต่อไปของภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมรามาด้า เจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 นี้ ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวน้อยมากประมาณ 7 พันล้านบาทเท่านั้น จากก่อนที่เกิดโควิด-19 ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึงปีละ 4.4 ล้านบาท จึงทำให้ประชาชนชาวภูเก็ตได้รับความยากลำบากมากจากรายได้ที่หายไป ทั้งนี้ เพราะเศรษฐกิจของภูเก็ตขับเคลื่อนด้วยภาคการท่องเที่ยวเพียงสาขาเดียวเท่านั้น ดังนั้นก้าวต่อไปของภูเก็ตจะต้องสร้างให้เกิดความแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นได้ทางเศรษฐกิจ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของภูเก็ตจะได้เดินต่อได้ไม่สะดุดทั้งหมดเหมือนครั้งนี้ที่โควิด-19 ระบาด
โดยการเพิ่มสาขาทางเศรษฐกิจให้ภูเก็ต ซึ่งตามแผนยุทธศาสตร์ของภูเก็ตที่กำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2566-2570 ได้กำหนดนแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไว้ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเสริมความแข็งแกร่งด้วย 10 ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวหลัก เช่น การท่องเที่ยวชุมชน การเป็นศูนย์การศึกษานานาชาติ เกษตร สมาร์ทซิตี สปอร์ตทัวริซึม ทูน่าฮับ อุตสหากรรมอาหาร ที่ภูเก็ตมีจุดเด่นเรื่องอาหารท้องถิ่น เมดิคอลฮับ มารีน่าฮับ ไมค์ซิตี เป็นต้น
ด้าน นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการการเดินทางเข้าภูเก็ต ว่า ผู้เดินทางในประเทศและจากต่างประเทศ มาตรการเข้าออกภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม จะง่ายกว่าเดิมมาก เป็นการส่งสัญญาณความพร้อมของภูเก็ตในการเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และภูเก็ตพร้อมมากสำหรับการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และเราจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งอย่างมีความสุข
ขณะที่ นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ในภูเก็ต ว่า แนวโน้มการติดเชื้อในภูเก็ตลดลง จากที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จากที่ก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง 200-250 คนต่อวัน ขณะนี้ลดเหลือ 140 คนปลายๆ เท่านั้น จากจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงจึงทำให้อัตราเตียงผู้ป่วยทุกประเภทเหลือว่าง 46.95% จากความร่วมมือของทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม หลังที่ภูเก็ตผ่อนคลายมาตรการเข้าพื้นที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าจะเพิ่มขึ้น แต่ภูเก็ตมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เดินทางเข้า แต่การที่คนเข้ามาเที่ยวเพิ่มจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของภูเก็ต
ด้าน นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต มาตอกย้ำเรื่องวัคซีนและการป้องกันโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อในปัจจุบันเป็นขาลง ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของทุกฝ่าย รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งที่ได้รับเข็ม 2 และเข็ม 3 วันนี้ภูเก็ตมีอัตราการได้รับวัคซีนสูงสุดในประเทศ และเทียบได้กับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก รวมทั้งได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-18 ปี และเน้นการตรวจเชิงรุกอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
นพ.บัญชา ค้าของ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า โควิด-19 คงจะไม่หมดไปจากภูเก็ตแต่เราทุกคนจะต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ Smart Living with Covid-19 ซึ่งในส่วนของ อบจ.ภูเก็ต กำลังเตรียมระบบเพื่อทำงานร่วมกับจังหวัดในการดูแลประชาชน โดย อบจ.ภูเก็ต จะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่เชิงรุกช่วยเหลือกลุ่ม 608 ทั้งคนภูเก็ตและคนจากต่างจังหวัด เปิดโครงการสายด่วนหยัดใจวางใจได้ ให้คำปรึกษาพร้อมแนะนำประชาชนที่มีความทุกข์สภาวะของสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากสถานการณ์ของโควิด-19 โครงการ อบจ.สมาร์ทดิจิทัล โดยจะเป็นการยกระดับของโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ในการช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรงพยาบาลวชิระ และโรงพยาบาลชุมชน ด้วยการวางระบบที่สามารถเชื่อมโยงได้ตั้งระดับ รพ.สต. ลงไปถึงระดับชุมชน และหมู่บ้านเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการรักษาโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล
ด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ย้ำถึงเศรษฐกิจของภูเก็ตจะเดินต่อไม่ได้ หากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแค่ 1% ของที่ผ่านมา และไม่สามารถที่จะกระจายรายได้สู่กลุ่มอาชีพต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา ผ่านมา 111 วัน หรือเกือบ 4 เดือน ททท.ได้รายงานว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 5 หมื่นคน สร้างรายได้ให้ภูเก็ตทางตรง 2,913 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภูเก็ตเกือบ 7 พันล้านบาท โดยคิดจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีค่าใช้จ่ายคนละ 62,000 ล้านบาทต่อทริป ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นเพียงแค่นี้คนภูเก็ตอยู่ไม่ได้ เศรษฐกิจภูเก็ตขับเคลื่อนไม่ได้
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต ย้ำต่อว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตวันละ 10,000 คนขึ้นไปเท่านั้น เศรษฐกิจภูเก็ตถึงจะขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งการที่จะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากวันละ 400 กว่าคนเป็น 10,000 คน หรือเพิ่มจาก 1% เป็น 125% นั้น ขั้นตอนต่างๆ การเข้ามาภูเก็ตจะต้องง่ายขึ้น โดยที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เสนอไปยังรัฐบาลในการปรับลดเงื่อนไขต่างๆ ให้ง่ายและสะดวกขึ้น บางเรื่องได้รับการแก้ไขแล้ว เช่น การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ครั้งแรกตรวจแบบ RT-PCR แต่ในครั้งที่สองตรวจแบบ ATK ด้วยตัวเองและป้อนข้อมูลเข้าระบบ “หมอชนะ” และการยกเลิกการขอ COE มาใช้ Thailand Pass จะทำให้สะดวกขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น การขอลดวงเงินประกันการเดินทางให้เหลือ 50,000 บาท จากที่กำหนดไว้ 100,000 บาท และการยกเลิกกักตัวกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงบนเครื่องบิน รวมไปถึงการตรวจ RT-PCR ที่สนามบิน ที่คิดว่าจะล่าช้ามากหากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในจำนวนที่สูง เป็นต้น
“เชื่อว่าหากปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวได้รับการแก้ไขในเดือน ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตไม่น้อยกว่า 300,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ภูเก็ตทางตรงไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้าน และจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท รายได้ที่จะเกิดขึ้นจะได้กระจายไปยังทุกกลุ่มอาชีพในภูเก็ต” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวในที่สุด