xs
xsm
sm
md
lg

ไล่ตรวจกลุ่มเสี่ยงในตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 2 กว่า 700 คน หลังพบแรงงานต่างด้าวติดโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สสจ.ภูเก็ต ร่วมเทศบาลนครภูเก็ต ตรวจเชิงรุกหาคนติดเชื้อโควิด-19 สัมผัสใกล้ชิดแรงงานต่างด้าว กลุ่มตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 2 กว่า 700 คน หวังหยุดการแพร่ระบาด


หลังจากมีการตรวจพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ติดเชื้อโควิด-19 วันเดียว 7 ราย โดยมีผลยืนยันเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ประกอบอาชีพรับจ้างขายของ ดูแลผู้ป่วย และรับจ้างในร้านอาหาร ซึ่งจากการสอบสวนโรคของทางสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนกว่า 700 ราย กระจายในส่วนตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 2

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ลานเปตอง ศูนย์กีฬาสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการตรวจคัดกรองให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงด้วยการทำ RT-PCR (Pooled nasopharyngeal swab) ตามโครงการ “ภูเก็ตปลอดเชื้อ ปลอดโรค และปลอดภัย” ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และเทศบาลนครภูเก็ต ดำเนินการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเชิงรุกฟรี ประมาณ 700 คน ซึ่งเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดสาธารณะ 2 ตลาดเกษตร และตลาดสดสาธารณะ 1 ถนนระนอง โดยการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งมี นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบเชิงรุกในครั้งนี้ เป็นการตรวจเชิงรุกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย ตลาดสดสาธารณะ 2 (ตลาดเกษตร) ประมาณ 700 คน จำนวน 2 วัน เนื่องกลุ่มมีแรงงานต่างด้าวที่เป็นพนักงานขายของอยู่ในตลาดติดเชื้อประมาณ 5 คน จึงจำเป็นให้การตรวจเชิงรุกเพื่อหากลุ่มเสี่ยงและลดการติดเชื้อให้มากที่สุด

สำหรับโครงการนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในไทม์ไลน์สุ่มเสี่ยงได้ให้ความสนใจมาตรวจคัดกรอง ทั้งนี้ หากทราบผลว่าติดเชื้อจะนำไปรักษาได้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตไม่มีผู้ติดเชื้อก่อนการเปิดเมืองภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น