ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หวิดชุลมุนชาวบ้านเกือบ 100 คนรวมตัวทวงเงิน และจะเอาข้าวสารจากโกดังของพ่อตาเจ้าของกลุ่มไลน์ออมเงินบ้านออมเบส แต่โชคดีตำรวจเข้าระงับเหตุได้ทัน พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งความให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันนี้ (22 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านใน อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ และ อ.เมือง จ.สงขลา กว่า 500 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ออมเงินออนไลน์ ผ่านแอปไลน์กลุ่มบ้านออมเบส เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าบ้านพักของหญิงสาวอายุ 35 ปี คือ น.ส.กรองทอง เกิดพุ่ม ในพื้นที่ ม.7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มออมเงินนี้ขึ้น เพื่อทวงเงินคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เนื่องจากระยะหลังเริ่มไม่ได้รับตามที่ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งมีทั้งผู้ที่ส่งเงินออมหลักหมื่น หลักแสน และหลักล้านบาท เพื่อหวังดอกเบี้ยในระยะสั้นที่สูงกว่าปกติ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
แต่เจ้าตัวกลับหนีหน้าและปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ พร้อมกับส่งทนายความมาเจรจา เพื่อขอไกล่เกลี่ยจ่ายเงินที่เหลือบางส่วนให้แก่ทางผู้เสียหาย ขณะที่ชาวบ้านบางรายได้รวบรวมเอกสารเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.พ.64 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากทางชาวบ้านผู้เสียหายบางส่วนเกือบ 100 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถกระบะมาจอดอยู่ริมถนนหน้าโกดังเก็บข้าวสารชื่อ “ตี๋น้อยการค้า” ซึ่งเป็นของพ่อตาของ น.ส.กรองทอง เพื่อที่จะขอรับเงินที่ถูกฉ้อโกงไป และบางคนก็อยากที่จะเอาข้าวสารกลับไปด้วย เพราะหากไม่ได้เงินก็ขอเอาข้าวสารกลับไป
แต่หลังที่มีการรวมตัวกันเกิดขึ้น ทางตำรวจ สภ.ม่วงงาม นำโดย พ.ต.อ.ธนินท์พันธุ์ เธียรเจริญ ผกก.สภ.ม่วงงาม ได้นำกำลังเข้าระงับเหตุการณ์ไม่ให้เกิดความชุลมุน และมีการใช้ความรุนแรงตามมา พร้อมกับห้ามไม่ให้ชาวบ้านเอาข้าวสารหรือสิ่งของอื่นใดเพราะจะผิดกฎหมาย
พร้อมกับได้แนะนำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในการถูกฉ้อโกงเงินเดินทางไปยัง สภ.ม่วงงาม เพื่อลงบันทึกประจำวัน ระบุรายละเอียดของความเสียหายที่ได้รับในเบื้องต้นเอาไว้ก่อน และค่อยนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการโอนเงิน สลิปโอนเงิน หรือหลักฐานอื่นๆ เข้ามาแจ้งความต่อทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การดำเนินคดีฐานฉ้อโกงกับทางเจ้าของกลุ่มออมเงินบ้านออมเบสต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในทางคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทางชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความต่อทางพนักงานสอบสวน โดยล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความราว 300 คน ในพื้นที่ 8 สภ. มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท และทางตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสำหรับคดีนี้ เพื่อรับสำนวนและเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่ได้รับ เพื่อดำเนินการทั้งในทางคดี รวมทั้งการออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของชาวบ้านผู้เสียหายรายหนึ่งเผยว่า ขณะนี้ทางทนายความของ น.ส.กรองทอง ได้ยื่นข้อเสนอที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวบ้าน โดยในเบื้องต้นนั้นจะให้ร้อยละ 10 ของเงินที่ลงทุนไป เช่น 100,000 บาท จะชดใช้ให้ 10,000 บาท ซึ่งมีชาวบ้านบางคนไปรับเงินแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีเงินลงทุนไม่เยอะ เพราะยังดีกว่าที่จะไม่ได้อะไรเลย
