ชาวสวนตรังแห่ขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูล รอรับเงินประกันรายได้ชดเชยราคายางตกต่ำ

ตรัง - ชาวสวนยางตรังแห่ขึ้นทะเบียน และปรับปรุงข้อมูลเพื่อรอรับเงินประกันรายได้ตามมติ ครม. เพื่อชดเชยปัญหาราคายางตกต่ำ โดยหวังนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว เพราะช่วงนี้ฝนตกกรีดยางไม่ได้

ตามมติ ครม.ที่เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะ 2 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคายางตกต่ำ โดยเกษตรกรที่มีสิทธิได้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน และแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับ กยท. ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 มีสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ มีระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน (ต.ค. 63-มี.ค.64) ซึ่งจะเริ่มจ่ายเงินเข้าบัญชีงวดแรกในเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยยางแผ่นดิบคุณภาพดีประกันรายได้ที่ กก.ละ 60 บาท น้ำยางสด 57 บาท/กก. ยางก้อนถ้วย 23 บาท/กก. ด้วยวงเงินงบประมาณ 10,042 ล้านบาทนั้น

โดยวันนี้ (27 พ.ย.) ที่ กยท.สาขาเมืองตรัง พบว่าได้มีเกษตรกรชาวสวนยางพาราจำนวนมากเดินทางไปตรวจสอบสถานะเกษตรกรของตนเอง รวมทั้งเดินทางไปปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรของตนเองให้เป็นปัจจุบัน เพื่อเตรียมตัวรับเงินชดเชยประกันรายได้ชาวสวนยางตามมติ ครม. เนื่องจาก กยท. กำหนดให้เกษตรกรไปปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยพบว่าชาวสวนยางที่มาปรับปรุงทะเบียน มีทั้งยางเปิดกรีดใหม่ รวมทั้งแปลงตกค้างที่ยังไม่ขึ้นทะเบียน โอนเปลี่ยนมือเป็นให้ลูกหลาน ซื้อขายเปลี่ยนแปลงเจ้าของ เปลี่ยนแปลงคนกรีด และลูกจ้างกรีดยาง เป็นต้น

ทั้งนี้ ชาวสวนยาง จ.ตรัง ที่เดินทางมาขึ้นทะเบียนต่างคาดหวังที่จะได้รับเงินชดเชยเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีปัญหาราคายางตกต่ำ และแม้ล่าสุดจะมีการปรับราคาขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ กก.ละ 50 บาทแล้ว แต่ก็ยังไม่คุ้มทุนการผลิต และฝนตกติดต่อกัน ทำให้กรีดยางไม่ได้ เกษตรกรจึงยังขาดรายได้ต่อเนื่องไปอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่ กยท. ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรชาวสวนยาง หากมีการเปลี่ยนมือ ทั้งเจ้าของ ลูกจ้างคนกรีด รวมทั้งโค่นทิ้ง เปิดกรีดใหม่ หรือเปลี่ยนหมายเลขบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. จะต้องรีบไปขึ้นทะเบียน หรือปรับปรุงทะเบียน เพื่อเตรียมเข้าระบบรับเงินประกันรายได้จากรัฐบาล