ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หวิดสลด! เกิดเหตุเพื่อนบ้านในเมืองหาดใหญ่ มาต่อว่าลูกชายชอบมามั่วสุมเป็นประจำ คนเป็นพ่อฉุนจัด ยกพวกถือปืนเดินมาขอเคลียร์ ก่อนเปิดฉากยิงใส่ 4 นัด บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ก่อนหลบหนีลอยนวล
คืนวานนี้ (5 พ.ย.) ได้เกิดเหตุยิงกันในชุมชนสุดซอย 5 ถนนรัถการ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ หลังจาก พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มาชา แก้วทอง รอง ผกก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน ตำรวจชุดสืบสวน ฝ่ายปราบปราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานหลักฐาน 9 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหลังบ้านเลขที่ 248/41 ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อคือ นายวินัย หนุดทอง อายุ 37 ปี ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ไปก่อนแล้ว โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่กลางหลัง 1 นัด กระสุนทะลุ
ในบริเวณจุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก นอกจากนี้ ที่กระจกรถเก๋งฮอนด้า ทะเบียน ขพ 6507 สงขลา ซึ่งเป็นรถของคนเจ็บที่จอดอยู่ในโรงรถหลังบ้าน มีรอยกระสุนที่กระจกหลัง และในรถยังพบหัวกระสุน 1 หัว และที่รถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน 1 ขฐ 7029 กรุงเทพ ของเพื่อนบ้าน มีรอยกระสุนเฉี่ยวที่หลังคา 1 นัด และที่กระจกหน้าบ้านเลขที่ 248/43 ก็มีรูกระสุนปืนอีก 2 รู แถมในบ้านยังมีหัวกระสุนตกอยู่ 2 หัว ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ผู้ก่อเหตุมี 3-4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีบ้านพักอยู่ในซอย 3 รัถการ ที่อยู่ห่างกันราว 10 เมตร ซึ่งเดินทะลุกับซอย 5 ที่เป็นจุดเกิดเหตุได้ ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้าน แต่พบว่าบ้านว่างเปล่าไม่มีคนอยู่ และได้หลบหนีกันไปหมดแล้ว
ซึ่งจากการสอบถามภรรยาของคนเจ็บ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปส่งน้ำกะทิที่ตลาดหาดใหญ่ ขากลับได้ถูกเพื่อนบ้านตะโกนตวาดใส่ และได้นำเรื่องมาบอกเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ซึ่งเพื่อนบอกให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวค่อยไปเคลียร์กัน สักพักก็ได้มีกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3-4 คน ทั้งผู้ใหญ่ และวัยรุ่นเดินมาหา หนึ่งในนั้นเป็นพ่อลูกกัน และมีการคุยกัน สุดท้ายก็ได้ยินเสียงลูกพูดว่ายิงเลยพ่อๆ ซึ่งตอนนั้นตนแง้มประตูออกมาดู และเห็นเหตุการณ์พอดี และคู่กรณีก็ชักอาวุธปืนยิงใส่สามีหลายนัด และพยายามวิ่งหนีตายไปไกลกว่า 10 เมตร จนล้มลงบนถนน ส่วนกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป และจากการสอบถามเพื่อนของคนเจ็บบอกว่า คนยิงมากัน 3 คน เป็นพ่อลูกกัน และวัยรุ่นอีก 1 คน เดินถือปืนมาเคลียร์กับคนเจ็บ กระทั่งเกิดการยิงกันขึ้น
ส่วนสาเหตุที่ยิงกันทราบว่า คนเจ็บได้ไปต่อว่าลูกชายของคนยิง ที่ชอบมามั่วสุมกันบริเวณหลังบ้านเป็นประจำ จึงน่าจะไปบอกพ่อ จนกระทั่งบานปลายตามมาเคลียร์ และยิงกันถึงบ้าน โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รู้ตัว และทราบชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (6 พ.ย.) ทางพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า มี 3 คน ประกอบด้วย บังเต็บ อายุประมาณ 60 ปี คนยิง นายศร อายุประมาณ 30 ปี ลูกชาย และพวกที่มาด้วยกันอีก 1 คน เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง
โดยจากการลงพื้นที่ไปที่บ้านของ 2 พ่อลูก ซึ่งอยู่คนละซอยกัน พบว่า บ้านเงียบ และได้หลบหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โดยทางตำรวจชุดสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างการติดตามหาเบาะแสเพื่อจับกุม และประสานญาติให้ติดต่อเข้ามอบตัวแต่โดยดี
ส่วนความคืบหน้าอาการของนายวินัย ญาติบอกว่าตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย โดยถูกยิงเข้าบริเวณหลัง กระดูกหัก กระสุนฝังใน แพทย์ยังไม่สามารถผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกได้ เพราะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นด้วย กลัวจะไม่ปลอดภัย โดยวันนี้ต้องรอดูอาการอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะสามารถผ่าตัดได้หรือไม่
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามบรรยากาศที่จุดเกิดเหตุภายในซอย 5 รัถการ ซึ่งพบว่า ญาติพี่น้องของนายวินัย ยังอยู่ในความตกใจ และเป็นห่วงนายวินัย ที่ถูกยิง โดยนายวิโรจน์ หนุดทอง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพ่อ บอกว่า สาเหตุมาจากเรื่องเดียว คือเรื่องที่ลูกชายตัวเองไปต่อว่า และตักเตือนลูกชายของนายเต็บ ที่ชอบมามั่วสุมข้างบ้านในตอนดึกๆ ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
โดยในคืนเกิดเหตุลูกชายซึ่งมีอาชีพคั้นน้ำกะทิขาย ได้นำน้ำกะทิไปส่งให้ลูกค้าภายในซอย 3 รัถการ และผ่านหน้าบ้าน 2 พ่อลูก โดยพ่อได้ใช้อาวุธปืนกวักมือเรียกให้หยุด และตวาดใส่เสียงดังลั่นซอย ก่อนที่จะเดินมากับลูกชาย และพรรคพวกมาหาถึงบ้าน และก่อเหตุกระหน่ำยิง โดยตนต้องการให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนโดยเร็วที่สุด เพราะลงมืออย่างอุกอาจ
ด้าน นางกอลีเยาะ หนุดทอง อายุ 60 ปี แม่ของนายวินัย บอกว่า หลังลูกชายถูกยิงได้วิ่งหนีตายร้องบอกว่าถูกยิง และมาทรุดตัวล้มลงตรงหน้าบ้านตน ซึ่งอยู่ห่างกันราว 10 เมตร เลือดไหลอาบร่าง เมื่อเห็นสภาพลูกชายทำอะไรไม่ถูกด้วยความสงสาร และเพื่อนบ้านได้ช่วยพากันส่งโรงพยาบาล
