สุราษฎร์ธานี - พิษโควิด-19 เสี่ยค้าไม้ญาติอดีตแม่ทัพภาค 4 ก่อเหตุสลดใช้ปืนยิงเมียดับก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง คาดเครียดเป็นหนี้สินเกือบ 20 ล้าน และสุขภาพ ก่อนเกิดเหตุไปกราบเท้าพ่อแม่เหมือนบอกลา
พิษโควิด-19 ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เกิดเหตุสลดกับครอบครัวเสี่ยค้าไม้ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ตัดสินใจใช้ปืนยิงเมียเสียชีวิต ก่อนที่จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) ร.ต.อ.ณัฐดนัย รุ่งเรือง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กาญจนดิษฐ์ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ที่ร้านค้าไม้ชลประทานค้าไม้ ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่ ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 115 หมู่ที่ 4 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพ นายพิทักษ์ พูลสวัสดิ์ อายุ 47 ปี เป็นเครือญาติกับอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เจ้าของร้าน สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่ศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืน 9 มม. 1 กระบอก และบนเตียงนอนพบศพ นางอรวรรณ เขมขาว อายุ 50 ปี ภรรยา ของนายพิทักษ์ สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกัน 3 นัดที่ใบหน้า ราวนมซ้าย และแขนขวา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายวทัญญู พูลสวัสดิ์ อายุ 26 ปี ลูกชายของนายพิทักษ์ กล่าวว่า เท่าที่สังเกตช่วงหลังพ่อมีอาการเครียดไม่ค่อยพูดและชอบเก็บตัวคนเดียว อาจเป็นเพราะอาการป่วยโรคหัวใจ ซึ่งได้ผ่าตัดรักษาไปแล้ว 2 ครั้ง นอกจากนี้ ยังทราบว่าพ่อมีปัญหาเรื่องภาระหนี้สินอีกกว่า 20 ล้านบาท
ด้าน นางเหื้อน พูลสวัสดิ์ อายุ 80 ปี แม่ของนายพิทักษ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายได้ไปหาที่บ้านและร่วมกินข้าวเย็นกับพ่อ แม่ และพี่สาว แต่สังเกตว่าลูกกินข้าวไม่ค่อยลง หลังจากกินข้าวแล้วลูกชายได้นั่งลงก้มกราบเท้าแม่และพี่สาวพร้อมกับร้องไห้ แม่ถามมีปัญหาอะไรก็ไม่พูด ซึ่งตนได้พูดไปว่าอย่าคิดมาก อย่าเครียด และพี่สาวชวนให้กินข้าวด้วยกันก็ไม่กิน ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาอะไร จนมาทราบว่าก่อเหตุยิงภรรยาและตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้น สาเหตุคาดว่าเกิดจากความเครียดเรื่องสุขภาพและปัญหาหนี้สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและเก็บตัวอย่างเยื่อบุในช่องปากของคนงานพม่าทุกคน ไปตรวจสอบดีเอ็นเอ ก่อนมอบศพทั้งคู่ส่งชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ต่อไป