สุราษฎร์ธานี - ราชาเฟอร์รี่ เตรียมแผนกู้เรือราชา 4 ที่จมอยู่ใต้ทะเลพร้อมก้อนขยะ 90 ตัน ต้นเดือนกันยายนนี้ ในขณะที่หลายหน่วยงานกังวลหวั่นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการนำเสนอแผนไม่มีรูปภาพตัวเรือที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลจริง มีเพียงภาพสเกตช์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ห้องประชุมของบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ฝั่งดอนสัก ผู้บริหารบริษัทและตัวแทนบริษัทผู้รับเหมากู้เรือราชา 4 ที่จมเมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ และมีขยะอัดก้อน จำนวน 90 ตัน ที่อยู่ในรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 3 คัน
โดยทางบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้ว่าจ้างบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญในการกู้เรือเป็นผู้ดำเนินการเรือราชา 4 ซึ่งก่อนการกู้เรือจะต้องส่งเสนอแผนการกู้เรือให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยว พิจารณาก่อนที่จะทางคณะกรรมการจะนำแผนเสนอต่อนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นชอบอนุมัติต่อไป
นายวิโรจ กุลวิโรตตมะ ประธานกลุ่มบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส กล่าวว่า ได้ส่งทีมประดาน้ำของบริษัทลงดำสำรวจพร้อมถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวประกอบการวางแผนการกู้ โดยพบว่าสภาพเรือมีลักษณะคว่ำหน้าตะแคงขวา ยานพาหนะยังอยู่ครบ ก้อนขยะไม่แตกกระจาย จึงได้เตรียมแผนกู้เรือไว้ว่า จะเริ่มจากประดาน้ำดำลงติดตาข่ายรถพ่วงเพื่อกันสิ่งของหลุดออกมา แล้วใช้เครนยกของ 2 ตัว ขนาด 600 และ 200 ตัน และใช้สลิงต่อยกเรือ เพื่อพลิกให้เรือเข้าสู่แนวตั้ง พร้อมรัดตาข่ายรถบรรทุกเพิ่มเติมก่อนปลดลูกพ่วงออกจากแม่ และทยอยยกพ่วงขึ้นเรือจนครบทั้ง 6 พ่วง และทำการ Lifting Gear ยกเรือขึ้นสู่ระดับผิวน้ำ สูบน้ำออก และดำน้ำสำรวจสภาพท้องเรือและกำลังลอยของเรืออีกครั้งก่อนลากเรือเข้าฝั่ง พร้อมกันนี้ จะมีเรือพร้อมติดตั้งตาข่ายดักเก็บขยะที่หลุดลอยไปตามกระแสน้ำ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอแผนการกู้เรือครั้งนี้ ทางบริษัทมีเพียงภาพสเกตช์มานำเสนอไม่มีภาพตัวเรือและสภาพรถหรือสภาพก้อนขยะของจริงที่จมอยู่ใต้น้ำมาประกอบกับแผนการกู้ จึงมีความวิตกกังวลว่าการกู้เรืออาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ทางบริษัทส่งภาพตัวเรือและภาพสิ่งของที่จมอยู่ใต้น้ำที่เป็นภาพจริงมาประกอบกับแผนการกู้เรือเพื่อเสนอแผนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกอบการพิจารณาอนุมัติต่อไป