ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เผย “ปฏิญญาอันดามันโกกรีน” ดันโซลาร์เซลล์ใน จ.กระบี่ ขยายจากพื้นที่ท่องเที่ยวสู่ชุมชนประมง ด้าน “บ.ภาคใต้โซล่าเซลล์” วาดหวังการติดตั้งที่มัสยิดจะเป็นแหล่งเรียนรู้พลังงานสะอาดให้กระจายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น
โรงแรมและร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการพึ่งตนเองด้านพลังงาน ส่งผลให้สามารถลดค่าไฟฟ้าลงไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ในบางชุมชนก็เริ่มติดตั้งโซลาร์เซลล์ด้วย เช่น ชุมชนบ้านคลองรั้ว-แหลมหิน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มัสยิดของชุมชน
ชุมชนบ้านคลองรั้ว เป็นชุมชนชายฝั่ง มีประชากร 317 ครัวเรือน เป็นพื้นที่เป้าหมายของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โดยเป็นจุดที่จะถูกก่อสร้างท่าเรือขนถ่ายถ่านหินเพื่อป้อนให้โรงไฟฟ้าถ่านหินอีกทอดหนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา ชุมชนได้รวมตัวกันในนาม “เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน” เสนอให้รัฐบาลเปลี่ยนมาใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการผลักดันจนเกิดการชะลอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในปัจจุบัน
นายสุรศักดิ์ เวลาดี ชาวบ้านคลองรั้ว-แหลมหิน กล่าวว่า มัสยิดเป็นสถานที่ส่วนรวม เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นหัวใจของชุมชน การเลือกมัสยิดให้ชาวบ้านได้ศึกษา ได้เห็นประโยชน์ของโซลาร์เซลล์ว่ามันใช้ได้จริง บ้านคลองรั้วต่อสู้กับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือถ่านหิน ซึ่งเป็นพลังงานไม่สะอาดมาต่อเนื่อง เสี่ยงต่อการที่ชาวประมงต้องสูญเสียพื้นที่ทำกิน เสี่ยงต่อวิถีการดำรงชีวิต พลังงานโซลาร์เซลล์เป็นทางออกที่ว่าถ้าไม่เอาถ่านหินแล้วจะเอาอะไร
นายศักดิ์กมล แสงดารา กรรมการบริษัท ภาคใต้โซล่าเซลล์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทไปติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มัสยิด เพื่อจะได้ช่วยลดค่าไฟได้ประมาณ 600 บาทต่อเดือน เป็นการติดตั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของชุมชน คาดว่าจะเป็นศูนย์ที่ประชาชนที่สนใจได้เรียนรู้ว่าสามารถใช้งานโซลาร์เซลล์ได้อย่างไร ผลิตไฟฟ้าอย่างไร ได้ประโยชน์แก่ชุมชนอย่างไร
“โซลาร์เซลล์เป็นพลังงานสะอาดที่คนเล็กคนน้อยสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การใช้โซลาร์เซลล์เป็นการช่วยเหลือโลกทางหนึ่ง ในพื้นที่กระบี่ หรือภาคใต้ก็เป็นวาระแห่งการเลือกใช้พลังงานสะอาดเพื่อการดูแลสิ่งแวดล้อม เราจะพยายามชวนให้ทุกคนมาใช้พลังงานสะอาด ทำเอง ใช้เล็กใช้น้อย หรือเรียนรู้ หรือขยายความรู้ เพื่อให้พลังงานสะอาดสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้” นายศักดิ์กมล กล่าว
ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนปริมาณการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาภายใต้ “ปฏิญญาอันดามันโกกรีน (Andaman Go Green)” โดยพลังงานโซลาร์เซลล์เป็นพลังงานหมุนเวียนชนิดหนึ่ง จากการศึกษา พบว่า จ.กระบี่ มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานชีวมวล พลังงานโซลาร์เซลล์ พลังงานลม พลังงานแก๊สชีวภาพ และพลังงานน้ำขนาดเล็กได้ประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ สูงกว่าปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งจังหวัด จำนวน 11 เท่า
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของพลังงานหมุนเวียนยังคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากขาดการสนับสนุนที่เพียงพอจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การรับซื้อพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตจากเอกชน การสนับสนุนแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น
