สุราษฎร์ธานี - ยังไร้วี่แววผู้สูญหาย 4 คน จากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่ม ระดมกำลังค้นหาอีกครั้งพรุ่งนี้ ทั้งทางอากาศ ทางทะเล ชี้อาจติดอยู่ในซากเรือ ส่วนเรื่องคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการสอบสวน
สำหรับการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มเมื่อคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังเหลือผู้สูญหายอีก 4 ราย ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งทหารบก ทหารเรือ ตำรวจน้ำ จังหวัด และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการวางแผนการค้นหาทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ แต่ก็ยังไร้วี่แวว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการค้นหา เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก และมีการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนในการค้นหาใหม่วันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในเบื้องต้นจากการที่ได้ทำการค้นหาทั้งทางน้ำ และทางภาคพื้นอากาศ ไม่พบร่างของผู้สูญหายในทะเลแต่อย่างใด และไม่แน่ใจว่าผู้สูญหายทั้ง 4 ราย ติดอยู่ในเรือหรือไม่ เนื่องจากจุดที่เรือเฟอร์รี่จมมีระดับน้ำลึกกว่า 20 เมตร และขณะนี้ยังหาจุดที่เรือจมไม่พบ เนื่องจากน้ำทะเลขุ่นมาก ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะประชุมในเรื่องของการวางแผนในการค้นหา โดยขอกำลังทีมหน่วยซีล จากกองเรือภาคที่ 2 มาทำการดำน้ำค้นหาในเรืออีกครั้ง และขอแผนผังของเรือมาดูว่ามีห้องตรงไหนบ้าง เนื่องจากในวันนี้ได้มีหน่วยกู้ภัยจากหลายภาคส่วนช่วยกันค้นหา แต่ยังไม่พบ
ทั้งนี้ ในเรื่องการเยียวยาของผู้ประสบภัย และผู้เสียชีวิตจากเรือเฟอร์รี่ล่มในครั้งนี้ ทางประกันสังคมจะเข้ามาดูแล และทางบริษัทของเรือเฟอร์รี่เองก็จะเข้ามาดูและเยียวยาในเบื้องต้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการเดินเรือ ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนมาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในเรื่องของการเดินเรือเนื่องจากทางประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนของคดีก็เป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ในการรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ และทางเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอำเภอเกาะสมุย จะเข้ามาดูในเรื่องของความพร้อมของเรือว่ามีการฝ่าฝืนการเดินเรือหรือไม่ เพื่อดำเนินการและให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญหายและผู้บาดเจ็บรวมทั้งผู้เสียชีวิต
ซึ่งในขณะนี้ยืนยันแล้วว่าผู้โดยสารในเรือพร้อมลูกเรือมีเพียง 16 ราย ช่วยเหลือได้ 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 4 ราย โดยในวันนี้ ภารกิจการติดตามค้นหาได้ยุติลงแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น.เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ สำหรับผู้สูญหาย 4 ราย ประกอบด้วย นายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ นายธีระวุธ ทองบุญยัง น.ส.นภัรดา จันหาญ และนายชาญชัย เหล่าทรัพย์
สำหรับเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ล่มในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 21.40 น.วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เรือราชาเฟอร์รี่ 4 ได้รับเหมาบรรทุกขยะจากบริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 3 คัน รถพ่วง มีน้ำหนักขยะประมาณ 50 ตัน และมีรถยนต์กระบะอีก 1 คัน พร้อมด้วยลูกเรือและผู้โดยสาร จำนวน 16 ราย เดินทางออกจากท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ในตำบลลิปะน้อย มุ่งหน้าไปยังฝั่งแผ่นดินใหญ่ ในอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะที่เรือออกจากท่าได้ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ได้มีคลื่นซัดเข้าใส่ตัวเรือ ทำให้รถบรรทุกในระวางเรือเกิดเอียงไปทางกราบเรือฝั่งเดียวกัน ทำให้เรือเอียงข้าง และน้ำทะเลได้ทะลักเข้าเรือทำให้เรือจมดังกล่าว ซึ่งเรือราชาเฟอร์รี่ 4 ลำนี้ เป็นเรือที่ใช้งานมาแล้วกว่า 20 ปี