xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเมืองคอนเสี่ยงฝ่ากะพรุนไฟลากกุ้งเคยโอกาสทองในรอบปีแม้เสี่ยงโดนพิษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านนครศรีธรรมราช ฝ่าดงกะพรุนไฟลากกุ้งเคยขึ้นฝั่ง เผยต้องกล้าเสี่ยงเพราะใน 1 ปีมีครั้งเดียวที่กุ้งเคยชุกชุม ขณะที่การเข้าฝั่งของกะพรุนไฟเกยหาดตายจำนวนมากยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้

วันนี้ (18 พ.ค.) ชาวบ้านริมหาดแพรกเมือง หมู่ที่ 9 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จำเป็นต้องเสี่ยงลงไปลากกุ้งเคยบริเวณทะเลริมหาด แม้ว่าระยะนี้จะเต็มไปด้วยแมงกะพรุนไฟจำนวนมากที่ชุกชุมบริเวณชายฝั่ง รวมทั้งเกยหาดตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยแมงกะพรุนชนิดนี้มีพิษรุนแรงสร้างความเจ็บปวด รวมทั้งอาการปวดแสบปวดร้อนให้แก่ผู้ที่สัมผัสคล้ายโดนไฟลวก และอาจอันตรายถึงชีวิตหากมีอาการแพ้ร่วมด้วย แต่ชาวบ้านได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงในการเดินลงทะเลแล้วใช้อุปกรณ์ในการลากช้อนกุ้งเคยที่กำลังชุกชุม เนื่องจากเป็นโอกาสประจำปีในการสร้างรายได้ และเก็บเอากุ้งเคยไว้ทำกะปิสำหรับบริโภคในครัวเรือน

นายสุริยา นิยมเดชา ชาวหมู่ 9 ตำบลหน้าสตน เปิดเผยว่า ราคากุ้งเคยสดหากลากแล้วนำไปจำหน่ายเลยจะมีราคาที่ราว 40-50 บาทต่อกิโลกรัม แต่หากนำไปแปรรูปเป็นกะปิแล้วจะมีราคาสูงถึง 170-220 บาทต่อกิโลกรัม บางคนลากได้ถึง 40-50 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนตัวแล้วนั้นนำมาเก็บไว้ทำกะปิบริโภคในครัวเรือน แต่หากได้มากก็จะแบ่งจำหน่าย จะมีคนมาขอแบ่งซื้อเพราะนี่คือของดีจากทะเล ที่ใน 1 ปีจะมีเพียงครั้งเดียวที่กุ้งเคยจะชุกชุมและเข้ามาถึงฝั่งให้ชาวบ้านลากช้อนได้ง่ายๆ โดยจะมีเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น


นายสุริยา ยังระบุว่า สำหรับแมงกะพรุนไฟที่ชุกชุมนั้น ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรที่ทำให้มีเป็นจำนวนมาก แต่ชาวบ้านจำเป็นต้องเสี่ยงในการเดินลงไปในทะเลเพื่อหารายได้ หากโดนแมงกะพรุนไฟก็ใช้วิธีภูมิปัญญาพื้นบ้านคือ ผักบุ้งทะเลในการบรรเทาอาการ และอาการจะหายไปเองได้โดยเร็ว

ขณะที่ นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ในทางวิชาการนั้นยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่ทำให้แมงกะพรุนไฟชุกชุมหนาแน่นมาก โดยเฉพาะแถบอำเภอหัวไทรในระยะนี้ แต่มีการเฝ้าสังเกตพบว่าจะมีปรากฏการณ์เช่นนี้ในรอบ 2-3 ปี หลังจากปีไหนที่หนาแน่นปีถัดไปจะลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด และจะกลับมาชุกชุมอีกครั้งในรอบ 2-3 ปีถัดไป








กำลังโหลดความคิดเห็น