xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มกล่าวหาลุงวัย 51 ฉกเอาเงิน 1.2 หมื่นไปจากตู้เอทีเอ็ม ลุงให้การเพิ่งเบิกมาจากเถ้าแก่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อลวนเงิน 1.2 หมื่นบาท ชายหนุ่มกล่าวหาลุงวัย 51 ปี ฉกเอาเงินไปจากตู้เอทีเอ็ม พร้อมเรียกให้ชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ ด้านลุงให้การต่อตำรวจ บอกเงิน 1.2 หมื่นนั้นเป็นของตนที่เพิ่งเบิกมาจากเถ้าแก่ และแจ้งความกลับชายผู้กล่าวหา

เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.อรรถพล น้ำขาว รองสารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุลักทรัพย์เอาไว้ได้ บริเวณใกล้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอย 17/2 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ในที่เกิดเหตุพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับชายคนหนึ่ง และอ้างว่าชายคนนี้ได้ขโมยเงินไปจากตู้เอทีเอ็ม

จากการสอบถาม นายพลู ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ผู้กล่าวหา กล่าวว่า ตนเดินทางมากับแฟนเพื่อกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเป็นจำนวนเงิน 12,000 บาท แต่ระหว่างที่กดเงินอยู่นั้นได้มีชายชราที่อยู่ใกล้ๆ ล้มลงมีเลือดออก ตนจึงเดินไปเอากระดาษทิชชูช่วยเช็ดเลือดให้ แต่ไม่ได้หยิบเงินออกจากตู้เอทีเอ็มมาด้วย พอหันกลับไปที่ตู้เอทีเอ็ม พบว่า ชายคนดังกล่าวกำลังเดินออกจากตู้เอทีเอ็ม โดยที่เงินในตู้ 12,000 บาทหายไป


ตนก็เรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นช่วยกันจับตัว และค้นในตัวพบมีเงิน จำนวน 12,000 บาท อยู่ในกระเป๋า ตนจึงเอากลับมา และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปเพราะชายชราคนดังกล่าวอยู่ในอาการมึนเมา แต่ตนไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากได้เงินคืนแล้ว และสงสารลุงไม่อยากเอาผิดลุงด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวชายคนดังกล่าวมาที่โรงพัก สอบถามทราบชื่อคือ นายสุวิทย์ โชติช่วง อายุ 51 ปี แต่จากการสอบถามนายสุวิทย์ ให้การว่า เงิน 12,000 บาทนั้นเป็นเงินของตนที่เพิ่งเบิกมาจากเถ้าแก่ และไม่ได้เป็นคนไปหยิบเงินจากตู้เอทีเอ็มมา โดยนายสุวิทย์ ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ว่า เงิน 12,000 บาทนั้น และแจ้งว่าผู้กล่าวหาตนครั้งแรกเป็นคนเอาเงินของตนไป

ส่วนทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ และจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดว่าเงิน จำนวน 12,000 บาทนั้นเป็นของใครกันแน่ และถ้าหากพบว่าบุคคลใดให้การเท็จจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น