xs
xsm
sm
md
lg

ทช.ส่งทีมสำรวจแหล่งดำน้ำเกาะเต่า ยันมีความสมบูรณ์สัตว์น้ำยังอยู่หนาแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - ทช.ส่งทีมสำรวจโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ยันยังมีความสมบูรณ์ สัตว์น้ำไม่ได้หายไปตามข่าว พร้อมเตรียมรับผู้มาเยือนของนักท่องเที่ยวหลังรัฐปลดล็อก


นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้สั่งการผ่านอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายโสภณ ทองดี มายังสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีข่าวในสังคมออนไลน์ ว่า หลังจากที่มีการเปิดให้มีกิจกรรมการดำน้ำในแหล่งดำน้ำที่ขึ้นชื่อของเกาะเต่าแล้ว พบว่าปลาชนิดต่างๆ ลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย


โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จึงได้ร่วมกับนักวิชาการประมงศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมทีมครูสอนดำน้ำเกาะเต่า ชมรมรักเกาะเต่า ได้ร่วมกันออกสำรวจสถานภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านต่างๆ โดยแบ่งทีมงานสำรวจเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กองหินใบ ในชั้นความลึกของน้ำตั้งแต่ 12-30 เมตร จากการสำรวจพบว่า พบกลุ่มปะการังกระจายตัวครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20% ปะการังชนิดเด่น ได้แก่ ปะการังโขด Porites lutea และปะการังชนิดอื่นปนอยู่ประปราย


ส่วนอีก 30% เป็นดอกไม้ทะเล กัลปังหา ฟองน้ำ และพบเศษปะการังตายประมาณ 10% สำหรับปริมาณปลาจากการสำรวจ พบ 17 จำพวก 49 ชนิด ตั้งแต่ปลาตัวเล็กถึงขนาดใหญ่ ชนิดเด่นเป็นจำพวกปลาสลิดหิน และพบฉลามวาฬขนาดใหญ่ที่กองหินเขียวอีกด้วย และมีการตรวจพบพบเครื่องมือประมงจำพวกอวน ลอบ อยู่ในแนวปะการังอยู่บ้าง


สำหรับข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ว่า ปริมาณปลาในแหล่งดำน้ำดังกล่าวลดลงไปมาก อาจเป็นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ช่วงเวลาที่ลงดำน้ำ อาจไปตรงกับช่วงที่ปลาว่ายมา ระยะเวลาในการลงดำน้ำอาจสั้นเกินไป หรือการแตกตื่นของฝูงปลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางราชการห้ามกิจกรรมใต้ทะเลอย่างเด็ดขาดซึ่งกินเวลาเดือนเศษ ที่กลุ่มปลาไม่ได้พบเจอมนุษย์ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมลงไปในทะเล จึงว่ายน้ำหนีห่างออกไป


ด้าน นายโกศล พงศ์ผดุงเกียรติ แกนนำกลุ่มอนุรักษ์เกาะเต่า ระบุกรณีมีข่าวว่ามีกลุ่มชาวประมงต่างถิ่นมาลักลอบทำการประมงในแหล่งและใกล้ๆ แหล่งปะการังนั้นอาจมีบ้าง เพราะช่วงคุมเข้มการระบาดโรคโควิด-19 ท้องทะเลว่างเปล่าขาดการสัญจรไปมาของผู้คน แต่ตนเองได้ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ เจ้าหน้าที่กรม ทช. และกรมประมงให้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจตราเป็นระยะๆ ประกอบกับคนเกาะเต่าก็ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และเปลี่ยนค่านิยมในการเก็บปลาเป็นๆ ที่มีชีวิตให้แหวกว่ายอยู่ในระบบนิเวศปะการัง สร้างประโยชน์มากมายมหาศาลประเมินค่าไม่ได้ดีกว่าจับปลาไปขายหรือใช้ประกอบอาหารซึ่งได้ประโยชน์ระยะสั้นถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย


กำลังโหลดความคิดเห็น