xs
xsm
sm
md
lg

ยื้อไม่อยู่ภูเก็ตป่วยเพิ่ม 4 ราย แจงพบผู้ป่วยที่ปราจีนฯ ตรวจสอบเข้มแต่ไม่แสดงอาการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยื้อไม่อยู่!! ภูเก็ตพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย จากพื้นที่ เชิงทะเล วิชิต และป่าตอง มีทั้งพนักงานเอกชน ข้าราชการ ขณะที่ สสจ.แจงหญิงป่วยที่ปราจีนฯ ผ่านการคัดกรองเข้มก่อนออกจากภูเก็ต ตรวจเพื่อนร่วมห้องไม่พบป่วย

วันนี้ (10 พ.ค.) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม-9 พฤษภาคม 2563 จังหวัดภูเก็ตพบมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย รวมยอดสะสม จำนวน 224 ราย โดยผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน 191 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตยังคงที่ คือ จำนวน 3 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ยังรักษาพยาบาลอยู่ 29 ราย ทุกรายอาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 46 ราย

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ 4 ราย มีรายละเอียดดังนี้ ลำดับที่ 1 รายที่ 221 หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพผู้ช่วยเลขานุการ อาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยป่าสัก 4 ม.4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 รอผลการสอบสวนโรค สำหรับรายนี้นับเป็นรายแรกที่พบในพื้นที่หมู่ 4 ของ ต.เชิงทะเล ที่เดิมเคยพบอยู่ในพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 2 และหมู่ 5

ลำดับที่ 2 รายที่ 222 หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพผู้ช่วยผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ อาศัยอยู่ในพื้นที่ซอยนาเสือ ม.4 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 รอผลการสอบสวนโรค มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 12 ราย

ลำดับที่ 3 รายที่ 223 ชายไทย อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเริ่มมีอาการป่วย วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 รอผลการสอบสวนโรค

ลำดับที่ 4 รายที่ 224 ชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับราชการ (ตำรวจสายตรวจ สภ.ป่าตอง) อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านพัก ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 รอผลการสอบสวนโรค ทั้งนี้ ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดมีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยง

ขณะที่นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต และไปตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางกลับภูมิลำเนา ว่า เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นรายที่ไม่มีอาการ ได้เดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ทาง จ.ปราจีนบุรี ได้เฝ้าระวังและทำการตรวจ พบว่ามีการติดเชื้อ สำหรับรายนี้เป็นพนักงานของห้างสรรพสินค้าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ อาศัยอยู่กับเพื่อน 2 คนที่ป่าตอง ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการตรวจหาเชื้อเพื่อนทั้ง 2 คนแล้ว ปรากฏว่า ไม่พบมีการติดเชื้อ และตอนนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของทางทีมสาธารณสุขเพื่อให้ครบ 14 วันตามเกณฑ์ ส่วนผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

สำหรับผู้ป่วยรายรายนี้จากการสอบสวนรายละเอียด พบว่า เป็นผู้ที่ไม่มีอาการป่วย ขณะเดินทางออกจากพื้นที่ป่าตอง ได้เดินทางไปกับรถแท็กซี่พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ไปลงที่ด่านท่าฉัตรไชย เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อประสานไปยังเพื่อนของผู้ป่วยทั้ง 3 คน รวมถึงแจ้งจังหวัดปลายทางเพื่อให้ทั้ง 3 คนได้รับการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจ

“ขณะที่ออกจากด่านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ได้ทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นในการวัดอุณหภูมิ ซักถามอาการ พบเป็นผู้ที่ไม่มีไข้ แล้วก็ไม่มีอาการใดๆ ไม่อยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อของ จ.ภูเก็ต เดินทางออกจากด่านท่าฉัตรไชย ไป จ.ปราจีนบุรี ด้วยรถตู้ มีผู้โดยสารทั้งหมด 8 คน เรามีชื่อและเบอร์โทร.ของทุกคน รวมถึงพนักงานขับรถด้วย ก็ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากเจ้าของรถตู้ให้ข้อมูลผู้โดยสารอย่างละเอียดทำให้เราสามารถติดต่อทุกคนได้แล้ว รวมถึงจังหวัดปลายทางได้ครบถ้วนทุกคน รวมจำนวน 7 คน ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกับรายนี้

มี 1 รายได้ทำการตรวจแล้วพบว่าไม่พบเชื้อ ตอนนี้เหลืออีก 6 คน ที่อยู่ในกระบวนการของการตรวจหาเชื้อ ข้อมูลทั้งหมดได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางนักระบาดกรมควบคุมโรค และประสานกับจังหวัดปลายทางทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิด มีการทำงานกันเป็นลักษณะของเครือข่าย ซึ่งทางสาธารณสุข ดำเนินการลักษณะนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว มีผู้สัมผัสอยู่จังหวัดไหนเดินทางไปจังหวัดไหน ก็จะมีการส่งต่อข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังกันต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการควบคุมและเฝ้าระวังป้องกันโรคยังคงดำเนินการตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัดในทุกๆ ราย


ขณะที่นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต และไปตรวจพบติดเชื้อโควิด หลังเดินทางกลับภูมิลำเนา ว่า เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นรายที่ไม่มีอาการ ได้เดินทางออกจาก จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ทาง จ.ปราจีนบุรี ได้เฝ้าระวังและทำการตรวจ พบว่ามีการติดเชื้อ สำหรับรายนี้เป็นพนักงานของห้างสรรพสินค้า ใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ อาศัยอยู่กับเพื่อน 2 คนที่ป่าตอง ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการตรวจหาเชื้อเพื่อนทั้ง 2 คนแล้ว ปรากฏว่า ไม่พบมีการติดเชื้อ และตอนนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของทางทีมสาธารณสุขเพื่อให้ครบ 14 วันตามเกณฑ์ ส่วนผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

สำหรับผู้ป่วยรายรายนี้จากการสอบสวนรายละเอียด พบว่าเป็นผู้ที่ไม่มีอาการป่วย ขณะเดินทางออกจากพื้นที่ป่าตอง ได้เดินทางไปกับรถแท็กซี่พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ไปลงที่ด่านท่าฉัตรไชย เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อประสานไปยังเพื่อนของผู้ป่วยทั้ง 3 คน รวมถึงแจ้งจังหวัดปลายทางเพื่อให้ทั้ง 3 คนได้รับการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจ

“ขณะที่ออกจากด่านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ได้ทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นในการวัดอุณหภูมิ ซักถามอาการ พบเป็นผู้ที่ไม่มีไข้ แล้วก็ไม่มีอาการใด ๆ ไม่อยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อของ จ.ภูเก็ต เดินทางออกจากด่านท่าฉัตรไชย ไป จ.ปราจีนด้วยรถตู้ มีผู้โดยสารทั้งหมด 8 คน เรามีชื่อและเบอร์โทรของทุกคน รวมถึงพนักงานขับรถด้วย ก็ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากเจ้าของรถตู้ให้ข้อมูลผู้โดยสารอย่างละเอียดทำให้เราสามารถติดต่อทุกคนได้แล้วก็รวมถึงจังหวัดปลายทางได้ครบถ้วนทุกคน รวมจำนวน 7 คน ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกับรายนี้

มีหนึ่งรายได้ทำการตรวจแล้วพบว่าไม่พบเชื้อ ตอนนี้เหลืออีก 6 คน ที่อยู่ในกระบวนการของการตรวจหาเชื้อ ข้อมูลทั้งหมดได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางนักระบาดกรมควบคุมโรคและประสานกับจังหวัดปลายทางทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิด มีการทำงานกันเป็นลักษณะของเครือข่าย ซึ่งทางสาธารณสุข ดำเนินการลักษณะนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว มีผู้สัมผัสอยู่จังหวัดไหนเดินทางไปจังหวัดไหน ก็จะมีการส่งต่อข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังกันต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการควบคุมและเฝ้าระวังป้องกันโรคยังคงดำเนินการตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัดในทุก ๆ ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น