xs
xsm
sm
md
lg

“เปอร์มัส” เรียกร้องรัฐไทยแก้ปัญหาโดยสันติวิธี วอน “บีอาร์เอ็น” อย่าตอบโต้ด้วยอาวุธ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มสหพันธ์นิสิต นักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี PerMAS ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐไทยแก้ปัญหาโดยสันติวิธี วอน “บีอาร์เอ็น” อย่าตอบโต้ด้วยอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการแก้ปัญหาไวรัส COVID-19

ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมตรวจค้น และเกิดปะทะกับกลุ่มคนร้าย ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 ราย ส่วนคนร้ายเสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดที่ใกล้มัสยิดหมู่ 6 บ้านปาการือซง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค.) มีกลุ่มสหพันธ์นิสิต นักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี PerMAS ได้ออกหนังสือแถลงการณ์เปิดผนึก ขอให้คู่สงครามเคารพหลักมนุษยธรรม ในช่วงวิกฤตไวรัส COVID-19 ส่งตามโซเชียลต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยในข้อความระบุพอสรุปได้ว่า ด้วยปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ขัดกันด้วยอาวุธในพื้นที่ปาตานีตลอด 16 ปี ประชาชนได้รับผลกระทบ และในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก ในพื้นที่ปาตานีมีผู้ติดเชื้อรวมกันไม่ต่ำกว่า 300 คน จนเกิดฉันทมติร่วมกันของทุกฝ่ายในสังคมหันมาให้ความสำคัญต่อเรื่องมนุษยธรรม และการแก้ไขปัญหา COVID-19 เป็นลำดับแรก

ขณะเดียวกัน ได้รับข่าวดีเมื่อ BRN ในฐานะคู่ขัดแย้งหลักของรัฐไทย ได้ประกาศต่อสาธารณชนถึงการยุติกิจกรรมทางอาวุธชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสุดความสามารถ บนเงื่อนไขว่า “ต้องไม่ถูกโจมตีจากรัฐไทยก่อน” แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้เข้าโจมตีกองกำลังปฏิวัติแห่งชาติปาตานี ณ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เสียชีวิต

สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี PerMAS เป็นองค์กรเคลื่อนไหวการเมืองของเยาวชนปาตานี โดยยึดหลักประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าจะเกิดการตอบโต้กลับของ BRN เนื่องจากรัฐไทยได้ละเมิดเงื่อนไขสำคัญในการยุติการปฏิบัติกิจกรรมทางอาวุธของ BRN

ดังนั้น PerMAS จึงเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1.ขอให้รัฐไทยยกเลิกนโยบายปราบปราม และยุติการปฏิบัติกิจกรรมทางอาวุธทุกกรณี และหันมาแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการทางการเมืองโดยสันติวิธี
2.ขอให้ BRN ในฐานะคู่ขัดแย้งหลักของรัฐไทย อดทนอดกลั้น และไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการแก้ปัญหาไวรัส COVID-19
3.ขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปาตานี ผลักดันให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการแก้ปัญหาปาตานี ให้สอดกล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน


โดยเมื่อเอกสารดังกล่าวออกเผยแพร่ ทำให้หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมา ปัญหาการก่อเหตุร้ายที่มีผลกระทบต่อประชาชน สถานการณ์ต่างๆ ได้เงียบ ทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย

ส่วนทางด้านทหาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวเช่นกันว่า การปฏิบัติในครั้งนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายต่ออาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อน และความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติได้






กำลังโหลดความคิดเห็น