xs
xsm
sm
md
lg

สสจ.ภูเก็ตจัดทีมลงพื้นที่ชุมชนชาวเล แหลมตุ๊กแก ปฏิบัติการปกป้องชุมชนเปราะบางห่างไกลโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สสจ.ภูเก็ตจัดทีมลงพื้นที่ชุมชนไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก ปฏิบัติการปกป้องชุมชนเปราะบางห่างไกลโควิด-19 เชิงรุก ทั้งมิติสุขภาพและมิติสังคม

วันนี้ (28 เม.ย.) ชุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) ร่วมด้วยอาสามัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่ชุมชนไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อปฏิบัติการปกป้องชุมชนเปราะบางห่างไกลโควิด-19 เชิงรุก ทั้งมิติสุขภาพและมิติสังคม โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายชาวไทยใหม่ทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า มอบนมสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต และได้ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลตัวเองตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในครอบครัว ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และกินร้อน ช้อนฉัน


นายมนตรี สุดสม หัวหน้ากลุ่มงานประกันสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากทีมงานสาธารณสุขจังหวัด พี่น้อง อสม.และภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้ลงพื้นที่ทำงานเชิงรุกตรวจคัดกรองหากลุ่มในพื้นที่ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ระบาด หรือพื้นที่สีแดง ซึ่งตอนนี้เราสามารถควบคุมได้ดีระดับหนึ่งแล้ว จึงได้เอากำลังแรงกายแรงใจที่เหลืออยู่มาทุ่มเทกับชุมชนเปราะบางเนื่องจากมีปัจจัยเอื้อต่อการเกิดการระบาดได้ อย่างเช่น ชุมชนไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแกแห่งนี้ ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่รวมกันหนาแน่น เป็นความเสี่ยงสำคัญ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตจึงได้จัดทีมเชิงรุกลงพื้นที่มากำชับอีกครั้งหนึ่ง ปกติเรามีทีม อสม. รพ.สต.ดำเนินการอยู่แล้ว

“ในการลงพื้นที่เราไม่ได้ดูมิติด้านสุขภาพอย่างเดียว ดูด้านอื่นร่วมด้วย เช่น ความเป็นอยู่ในเบื้องต้น สิ่งแรกที่แนะนำ คือการใช้ชีวิตที่ปลอดภัย เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าที่ถูกต้อง การหมั่นล้างมือฆ่าเชื้อ ทางทีมงาน สสจ.เอาหน้ากากผ้าและสบู่มาแจกด้วย นอกจากนี้ ได้นำนมกล่องและนมผงที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนมาแจกให้เด็กๆ ด้วย“



นายมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากชุมชนชาวไทยใหม่แล้ว เรายังให้ความสำคัญต่อแคมป์คนงานด้วย ที่ผ่านมา ทางสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เข้าไปตรวจคัดกรองและดูแลด้านความเป็นอยู่เบื้องต้น และยังได้นำหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลว่าแคมป์ถูกทอดทิ้งหรือมีคนดูแลหรือไม่ โดยเฉพาะนายจ้างที่จะดูแลเพราะหลักการของสาธารณสุขคือการควบคุมโรค คนข้างในต้องไม่ออกหรือออกให้น้อยที่สุด เพราะว่าสถิติตอนนี้เขายังปลอดภัย ยังไม่มีการรับเชื้อ ดังนั้น ให้ออกจากที่อยู่หรือที่พักอาศัยของเขาให้น้อยที่สุด นายจ้างหรือหน่วยงานรับผิดชอบต้องมาดูแล อย่าให้คนข้างนอกเข้าไป เราก็ไปให้เขาจัดระบบภายในว่ามีใครแปลกปลอมเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่นหรือไม่ เป็นโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะนำเชื้อจากข้างนอกมาสู่ข้างใน

ดังนั้น ช่วงนี้แคมป์คนงาน ชุมชนที่แออัด ไม่ว่าจะเป็นชุมชนเมืองหรือชุมชนชาวไทยใหม่ก็จะเป็นจุดที่ทางสำนักงานสาธารณสุขรวมถึงภาคส่วนต่างๆ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อที่จะหยุดโควิด-19 ให้ได้ เราต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ในการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal ให้แก่ชุมชนต่างๆ ให้ถือปฏิบัติเป็นนิสัยถาวรไม่ใช่ว่าโควิด-19 หายไปแล้ว จะไม่มีโรคอื่นเกิดขึ้น การอยู่ที่บ้านกินร้อน ช้อนฉัน อยู่ห่างกัน หมั่นล้างมือ เป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ได้เกือบทุกโรค เป็นพื้นฐานพฤติกรรมใหม่ทางสังคม ฝากตรงนี้ไว้ด้วยว่าทุกคนควรจะปฏิบัติให้เกิดความชัดเจน


“โรคโควิด-19 ป้องกันได้ อันดับแรกตัวเราสำคัญที่สุด อย่าคิดว่าตอนนี้วงการสาธารณสุขของไทย วงการสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แพทย์พยาบาลเก่งมีความสามารถ เป็นเมื่อไหร่มีโรงพยาบาลรองรับ ไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เราทำได้ดีก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องการมากคือการป้องกันตัวเอง” นายมนตรี กล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น