ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คาดการณ์สาเหตุทำ 42 คนต่างด้าว ที่ศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ติดเชื้อโควิด-19 น่าจะติดมาจากเจ้าหน้าที่ ตม.สะเดา ที่ติดเชื้อคนแรก ซึ่งมาเข้าเวรที่ศูนย์กักแห่งนี้เมื่อ 4 เม.ย. และไม่น่าจะใช่หญิงชาวมาเลเซียที่ขับรถชนคนตายเป็นคนแพร่เชื้อ
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนต่างด้าวที่ถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 คน จากทั้งหมด 115 คน ล่าสุด จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้คนต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะได้รับการแพร่เชื้อมาจาก 2 กรณีด้วยกัน คือ กรณีแรกรับเชื้อมาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนแรก ซึ่งไปเข้าเวรที่ศูนย์กักแห่งนี้ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา และในวันนั้นได้มีการส่งตัวคนต่างด้าว จำนวน 10 คน จาก สภ.หาดใหญ่ ไปยังศูนย์กักแห่งนี้ และมีการตรวจค้นร่างกายก่อนเข้าห้องกัก
ส่วนอีกกรณีคือ อาจมาจากหญิงชาวมาเลเซีย ชื่อ น.ส.มาลินดา ซูซีลานีนี บินตี โมฮัมหมัด อาซาลัน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีขับรถเก๋งชนคนงานหมวดการทางกำแพงเพชรเสียชีวิต 6 ศพ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2562 ซึ่งถูกส่งมากักตัวที่ศูนย์กักเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมา วันที่ 17 เม.ย. ได้ออกจากห้องกักมาโทรศัพท์คุยกับญาติที่มาเลเซีย และวันที่ 18 เม.ย. มีอาการปวดหัว ขอยาจากเจ้าหน้าที่ และถูกผลักดันกลับประเทศเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา และป่วยโควิด-19 มีอาการทรุดหนักจนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2563
แต่เมื่อเทียบช่วงเวลา และพฤติกรรมเสี่ยงแล้ว ต้นเหตุของการแพร่เชื้อที่ทำให้คนต่างด้าวติดเชื้อ 42 คน น่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ ตม.สะเดา คนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะเจ้าหน้าที่ ตม.ที่เข้าเวรร่วมกับ ตม.คนนี้ 5 คน ติดเชื้อแล้วทั้งหมด และยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากหญิงชาวมาเลเซีย เพราะนับตั้งแต่เกิดคดีขับรถชนคนตาย 6 ศพ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2562 และได้รับการประกันตัวออกมาก็ยังไม่ได้กลับประเทศมาเลเซีย และพักอยู่ที่บ้านของนายประกันที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาตลอด และผู้คนใกล้ชิด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ตม.ที่ไปรับตัวจากบ้านนายประกันมากักตัวที่ศูนย์กักแห่งนี้ ผลตรวจก็เป็นลบไม่พบเชื้อ รวมทั้งผู้ใกล้ชิดที่บ้านนายประกันคนอื่นๆ ทุกคนก็ยังปกติ
ส่วนชาวต่างด้าวที่ติดเชื้อแยกเป็นชาวพม่า 34 คน เวียดนาม 3 คน มาเลเซีย 2 คน เยเมน 1 คน กัมพูชา 1 คน และอินเดีย 1 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรอส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป