xs
xsm
sm
md
lg

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภูเก็ตพุ่ง เพิ่มอีก 14 ราย สะสมแล้ว 140 ราย หลังใช้มาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภูเก็ต เพิ่มขึ้นอีก 14 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 2 ราย และอีก 12 ราย จากการใช้มาตรการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ป่าตอง รวมสะสม 140 รายแล้ว

วันนี้ (8 เม.ย.) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม-7 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 140 ราย (รายใหม่ 14 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 42 ราย จำหน่าย 1 ราย (ชาวฮังการีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจราจรแต่ตรวจพบเชื้อโควิด-19) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 97 ราย ในจำนวนนี้อาการรุนแรง 3 ราย เสียชีวิต - ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ทั้งนี้ มีผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,846 ราย (รายใหม่ 90 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 183 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 86 ราย กลับบ้านแล้ว 1,663 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 14 ราย มีรายละเอียด ดังนี้

ลำดับที่ 1 ผู้ป่วยรายที่ 127 ผู้หญิงชาวรัสเซีย อายุ 24 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตอง มานานกว่า 1 เดือน มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้ง และสัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 124, 125 และ 126 ในเขต ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 2 ราย

ลำดับที่ 2 ผู้ป่วยรายที่ 128 ผู้ชายไทย อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานโหลดสัมภาระสนามบินนานาชาติภูเก็ต มีประวัติเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ก่อนป่วย และทำงานที่เดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 121 พักอาศัยที่บ้านเช่า ต.สาคู อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 7 ราย

ลำดับที่ 3 ผู้ป่วยรายที่ 129 ผู้หญิงไทย อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทำงานที่เดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 13, 27 และ 35 และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ พักอาศัยที่คอนโดมิเนียมในป่าตอง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 2 ราย

ลำดับที่ 4 ผู้ป่วยรายที่ 130 ผู้หญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และทำงานที่ร้านนวดเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันที่ได้รับรายงานจากอุบลราชธานี พักอาศัยที่ห้องเช่าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 5 ราย
 
ลำดับที่ 5 ผู้ป่วยรายที่ 131 ผู้หญิงไทย อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ พักอาศัยที่ห้องเช่าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 29 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 25 ราย

ลำดับที่ 6 ผู้ป่วยรายที่ 132 ผู้หญิงไทย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และทำงานที่ร้านนวดเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 130 พักอาศัยที่ห้องเช่าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 4 ราย

ลำดับที่ 7 ผู้ป่วยรายที่ 133 ผู้หญิงไทย อายุ 64 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และทำงานที่ร้านนวดเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 130 และ 132 พักอาศัยที่ห้องเช่าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ยังไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 1 ราย

ลำดับที่ 8 ผู้ป่วยรายที่ 134 ผู้หญิงไทย อายุ 36 ปี อาชีพพนักงานเก็บเงินสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ พักอาศัยที่ห้องเช่าใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ยังไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 5 ราย

ลำดับที่ 9 ผู้ป่วยรายที่ 135 ผู้หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพแม่บ้านโรงแรมในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติเข้าไปทำความสะอาดห้องพักในโรงแรมของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 58 พักอาศัยในเขต ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ยังไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 5 ราย

ลำดับที่ 10 ผู้ป่วยรายที่ 136 ผู้หญิงไทย อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้านสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทำงานที่เดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 17, 36 56 และ 71 พักอาศัยในเขต ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 25 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 1 ราย

ลำดับที่ 11 ผู้ป่วยรายที่ 137 ผู้ชายไทย อายุ 41 ปี อาชีพพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารอิตาลีใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติทำงานในร้านอาหารเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 59 และ 60 ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยันจึงได้นำมากักตัวที่โรงแรมที่กำหนดไว้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 30 มีนาคม 2563 ไม่มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้

ลำดับที่ 12 ผู้ป่วยรายที่ 138 ผู้หญิงไทย อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และเป็นเพื่อนสนิทของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 87 พักอาศัยในเขต ต.กะทู้ อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 26 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 3 ราย
 
 ลำดับที่ 13 ผู้ป่วยรายที่ 139 ผู้หญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพบริการ มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้ง สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และเป็นเพื่อนสนิทของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 87 และ 138 พักอาศัยในเขต ต.กะทู้ อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 4 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 4 ราย

ลำดับที่ 14 ผู้ป่วยรายที่ 140 ผู้หญิงไทย อายุ 34 ปี อาชีพบริการ มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้ง สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ และเป็นเพื่อนสนิทของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 87, 138 และ 139 พักอาศัยในเขต ต.กะทู้ อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 4 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวนควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ 12 จาก 14 ราย เป็นกลุ่มที่พบจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก

ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเพิ่มเป็นพิเศษในเขตพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เพื่อค้นหาผู้ป่วยกลุ่มผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงสูง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งทางทีมงานสาธารณสุขและเทศบาลป่าตองได้ร่วมกันค้นหาเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 2-7 เม.ย.63 และนำมากักตัวไว้ในสถานที่ซึ่งทางเทศบาลป่าตองได้เตรียมไว้ ส่วนผู้ป่วยยืนยันอีก 2 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันและไปยังสถานที่เสี่ยง

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่า โรคโควิด-19 นี้สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ที่เดียวกัน ทำงานใกล้ชิดกัน มีการพูดคุย สัมผัส หรือใช้สิ่งของร่วมกัน จึงอยากจะเน้นย้ำเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์ สำหรับประชาชนทั่วไปขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


กำลังโหลดความคิดเห็น