ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.วชิระภูเก็ต แจงนักท่องเที่ยวฮังการีวัย 25 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนร่วมด้วยโรคปอดติดเชื้อโควิด-19 ระบุเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เสี่ยง 112 คน กักตัว 14 วัน ขณะที่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งประวัติเที่ยวซอยบางลา
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่การประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้แถลงข่าวรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 4 ราย รวมยอดสะสม 123 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 29 ราย รอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 98 ราย
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวให้ข้อมูลกรณีมีกระแสข่าวว่า มีชายชาวฮังการี อายุ 25 ปี เสียชีวิตจำนวน 1 คน ว่า สำหรับกรณีชาวฮังการีที่เสียชีวิตนั้น พบว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. มีนักท่องเที่ยวชายชาวฮังการี ประสบอุบัติเหตุทางถนน แล้วถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลฉลอง เวลา 04.25 น. จากนั้นวันเดียวกัน ได้ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในวันเดียวกัน เวลา 05.30 น. ขณะนั้นผู้ป่วยมีอาการชา แขน ขาอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ยังรู้สึกตัวพูดคุยได้ แต่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งข้อมูลความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่อย่างใด
หลังจากนั้น แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์พบกระดูกบริเวณต้นคอท่อนที่ 6 หัก เส้นประสาทไขสันหลังที่ต้นคอฉีกขาด ได้รับการผ่าตัดในทันที ในเวลาประมาณ 15.00 น. หลังผ่าตัดผู้ป่วยรู้สึกตัวพูดคุยดี และพักรักษาอยู่โรงพยาบาลได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างใกล้ชิดตลอด
ต่อมา วันที่ 29 เม.ย.เพื่อนผู้ป่วยจากพื้นที่บางลา ป่าตอง มาเยี่ยมทำให้ทีมงานเริ่มสงสัยว่าผู้ป่วยเคยไปเที่ยวซอยบางลามาหรือไม่ จึงได้ทำการซักประวัติ ทราบว่าไปเที่ยวในพื้นที่ซอยบางลา ป่าตอง อยู่ 2 สัปดาห์ และก่อนมาภูเก็ตได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จึงเข้าใจได้ว่าน่าจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการติดโควิด-19 ทางแพทย์จึงได้ทำการเจาะตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 มี.ค. และวันที่ 31 มี.ค. ปรากฏว่าผลออกมาเป็นบวก
หลังจากนั้น ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไม่ดีขึ้น มีอาการไข้สูง หายใจลำบากขึ้น จนกระทั่งถึงวันที่ 2 เม.ย.ผู้ป่วยเริ่มมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และวันที่ 3 เม.ย. คนไข้เริ่มมีอาการหยุดหายใจ เวลา 02.40 น. และแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ไม่สามารถกู้ชีวิตไว้ได้ สรุปการเสียชีวิตของรายนี้เกิดจากกระดูกไขสันบาดเจ็บเนื่องจากกระดูกสันหลังส่วนต้นคอหักจากอุบัติเหตุทางถนน ร่วมด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 รวมระยะเวลาการรักษาที่โรงพยาบาล 10 วัน
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮังการีเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจพอสมควร เพราะเคสนี้ไม่ได้แจ้งความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่แรก ทำให้บุคลากรทางการแพทย์กลายเป็นเป็นกลุ่มเสี่ยงจากเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำนวน 112 คน แยกเป็นผู้สัมผัสมีความเสี่ยงต่ำ 8 คน และผู้สัมผัสมีความเสี่ยงสูง 104 คน โดยทั้งหมดได้สั่งให้พักและเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน อยู่ที่สถานกักตัวที่ทางจังหวัดกำหนดให้เป็นสถานที่กักตัว และส่วนหนึ่งได้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ในจำนวน 104 คน ได้มีการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 94 คน และกำลังอยู่ระหว่างการรอเก็บสารคัดหลั่งอีกจำนวน 18 คน
ซึ่งทั้งหมดนี้อยากฝากไปยังประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าปิดบังข้อมูล เพราะการปิดบังข้อมูลทำให้เราต้องสูญเสียบุคลากรที่จะมาช่วยกันทำงานมากกว่า 100 คน
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่การประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้แถลงข่าวรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 4 ราย รวมยอดสะสม 123 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 29 ราย รอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 98 ราย
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวให้ข้อมูลกรณีมีกระแสข่าวว่า มีชายชาวฮังการี อายุ 25 ปี เสียชีวิตจำนวน 1 คน ว่า สำหรับกรณีชาวฮังการีที่เสียชีวิตนั้น พบว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. มีนักท่องเที่ยวชายชาวฮังการี ประสบอุบัติเหตุทางถนน แล้วถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลฉลอง เวลา 04.25 น. จากนั้นวันเดียวกัน ได้ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในวันเดียวกัน เวลา 05.30 น. ขณะนั้นผู้ป่วยมีอาการชา แขน ขาอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ยังรู้สึกตัวพูดคุยได้ แต่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งข้อมูลความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่อย่างใด
หลังจากนั้น แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์พบกระดูกบริเวณต้นคอท่อนที่ 6 หัก เส้นประสาทไขสันหลังที่ต้นคอฉีกขาด ได้รับการผ่าตัดในทันที ในเวลาประมาณ 15.00 น. หลังผ่าตัดผู้ป่วยรู้สึกตัวพูดคุยดี และพักรักษาอยู่โรงพยาบาลได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างใกล้ชิดตลอด
ต่อมา วันที่ 29 เม.ย.เพื่อนผู้ป่วยจากพื้นที่บางลา ป่าตอง มาเยี่ยมทำให้ทีมงานเริ่มสงสัยว่าผู้ป่วยเคยไปเที่ยวซอยบางลามาหรือไม่ จึงได้ทำการซักประวัติ ทราบว่าไปเที่ยวในพื้นที่ซอยบางลา ป่าตอง อยู่ 2 สัปดาห์ และก่อนมาภูเก็ตได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จึงเข้าใจได้ว่าน่าจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการติดโควิด-19 ทางแพทย์จึงได้ทำการเจาะตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 มี.ค. และวันที่ 31 มี.ค. ปรากฏว่าผลออกมาเป็นบวก
หลังจากนั้น ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไม่ดีขึ้น มีอาการไข้สูง หายใจลำบากขึ้น จนกระทั่งถึงวันที่ 2 เม.ย.ผู้ป่วยเริ่มมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และวันที่ 3 เม.ย. คนไข้เริ่มมีอาการหยุดหายใจ เวลา 02.40 น. และแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ไม่สามารถกู้ชีวิตไว้ได้ สรุปการเสียชีวิตของรายนี้เกิดจากกระดูกไขสันบาดเจ็บเนื่องจากกระดูกสันหลังส่วนต้นคอหักจากอุบัติเหตุทางถนน ร่วมด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 รวมระยะเวลาการรักษาที่โรงพยาบาล 10 วัน
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮังการีเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจพอสมควร เพราะเคสนี้ไม่ได้แจ้งความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่แรก ทำให้บุคลากรทางการแพทย์กลายเป็นเป็นกลุ่มเสี่ยงจากเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำนวน 112 คน แยกเป็นผู้สัมผัสมีความเสี่ยงต่ำ 8 คน และผู้สัมผัสมีความเสี่ยงสูง 104 คน โดยทั้งหมดได้สั่งให้พักและเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน อยู่ที่สถานกักตัวที่ทางจังหวัดกำหนดให้เป็นสถานที่กักตัว และส่วนหนึ่งได้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ในจำนวน 104 คน ได้มีการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 94 คน และกำลังอยู่ระหว่างการรอเก็บสารคัดหลั่งอีกจำนวน 18 คน
ซึ่งทั้งหมดนี้อยากฝากไปยังประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าปิดบังข้อมูล เพราะการปิดบังข้อมูลทำให้เราต้องสูญเสียบุคลากรที่จะมาช่วยกันทำงานมากกว่า 100 คน