ตรัง - รองผู้ว่าฯ ออกโรงแจงหลังมีเสียงเรียกร้องให้ “ปิดเมืองตรัง” รวมทั้งปิดห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ ระบุต้องวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน เผยขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยยังคงที่ ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นจนน่ากลัว
นายขจรศักดิ์ เจริญสิริโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนบางส่วนที่เรียกร้องให้จังหวัดตรังปิดเมือง หรือ “ล็อกดาวน์จังหวัดตรัง” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เหมือนกับที่จังหวัดใกล้เคียงทำการปิดเมืองไปแล้ว เช่น พัทลุง สตูล กระบี่ และสงขลา ว่าการจะปิดเมืองจะต้องนำข้อมูลรอบด้านมาใช้สำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลระบาดวิทยา ซึ่งเบื้องต้นจังหวัดที่ปิดอย่างภูเก็ต สงขลา กระบี่ พัทลุง หรือสตูลปิดด่าน ด้วยเหตุผลที่ว่าในพื้นที่แต่ละจังหวัดสถานการณ์การระบาดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ภูเก็ต ทะลุไป 100 กว่าราย สงขลา 37 ราย พัทลุง 10 ราย ซึ่งในการปฏิบัติ จ.ตรัง มีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว โดยจะเอาสถานการณ์การระบาดในพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญ รวมทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์การระบาด แต่ขณะนี้ของ จ.ตรัง มีผู้ป่วย 6 ราย และตัวเลขการระบาด และผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคก็ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจกลัวเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการโรงแรม และผู้เช่ารายย่อยภายในห้างสรรพสินค้า ที่เรียกร้องให้ทางจังหวัดสั่งปิด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ไม่มีลูกค้า ไม่มีรายได้ ขาดทุนย่อยยับ ซึ่งหากสั่งปิดในส่วนของลูกจ้าง หรือผู้เช่ารายย่อย อาจจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล และส่วนของลูกจ้างเข้าสู่ระบบการเยียวยาจากประกันสังคม ทั้งนี้ ทั้งเรื่องการปิดเมือง การปิดห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จะต้องนำข้อมูลเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง พิจารณาในวันพุธที่ 8 เมษายนนี้
ด้าน พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้รายงานผลการปฏิบัติงานช่วงประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการเตือน 7 ราย และมีการจับกุมดำเนินคดี 4 ราย คือ อ.ปะเหลียน 2 ราย อ.หาดสำราญ 1 ราย และห้วยยอด 1 ราย โดยทั้งหมดถูกจับกุมเนื่องจากขับรถออกนอกบ้านในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว ทั้งนี้ ได้ส่งฟ้องศาลข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก. 3 ราย ศาลสั่งปรับรายละ 5,000 บาท และมีโทษจำคุกให้รอลงอาญา ในส่วนของ อ.หาดสำราญ มีโทษบำเพ็ญประโยชน์ 12 วัน ส่วนของ อ.ห้วยยอด รอฟ้องร่วมกับคดียาเสพติด (ยาบ้า) นอกจากนั้น ปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าตลาดท่ากลาง ต.ทับเที่ยง พบว่า 2 คืนที่ผ่านมา ได้ออกมาจัดเตรียมของเพื่อวางขายในช่วงเวลาตั้งแต่ 03.00 น. ซึ่งยังเป็นช่วงของประกาศเคอร์ฟิว โดยได้ใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือน แต่นับจากคืนวันที่ 5 เมษายนเป็นต้นมา ได้จับกุมและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศของตลาดท่ากลาง ซึ่งเป็นตลาดขายผักตลอด 24 ชั่วโมง มีลูกค้าทยอยเข้ามาซื้อหาผักในตลาดบางตา ด้านพ่อค้าแม่ค้าขายผักจึงต้องปรับตัวทันที เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุม จึงเร่งจัดผักต่างๆ ตามแผงเอาไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00-21.00 น. แล้วใช้ผ้ายางคลุมไว้ รอขายอีกครั้งช่วงหลังเวลา 04.00 น. ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุมดำเนินคดี แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าพ่อค้าแม่ค้าผักบางเจ้าก็หยุดขาย ยอมปล่อยทิ้งแผง เพราะคนมาซื้อน้อยลง ขายได้น้อย และเสี่ยงจะรับเชื้อโควิด-19 บางรายจึงใช้วิธียอมหยุดขายชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยสะสมของ จ.ตรัง รวมจำนวน 6 คน กลับบ้านแล้ว 3 ราย ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จำนวน 145 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 129 ราย รอผลการตรวจ 10 ราย
