นราธิวาส - ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ระบุ ภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่มีระดับการแพร่ระบาดไม่มากนัก ย้ำประชาชนต้องช่วยกัน ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือทุกมัสยิดงดการละหมาดญมาอะฮ์ (ละหมาดหมู่)
วันนี้ (3 เม.ย.) นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม 14 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 2 เม.ย.63) รักษาหาย 4 ราย อยู่โรงพยาบาล 9 ราย ส่วนใหญ่อยู่โรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และเสียชีวิต 1 ราย
ทางด้านกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ภาพรวมจำนวนกว่า 25,000 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวนราธิวาส ประมาณ 5,000-6,000 คน โดยให้พื้นที่ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ทำการตรวจคัดกรองตรวจสอบ พร้อมขอความร่วมมือดูแลตนเอง หากมีอาการป่วยให้รีบโทร.แจ้ง 1669 ส่วนคนที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร มีระบบในการติดตามตัวทั้งหมด และขอให้มีวินัยในตนเอง กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน
ส่วนระดับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ยังไม่มากนัก ที่สำคัญคือประชาชนต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ข้าราชการ ประชาชน ผู้นำศาสนา อย่ารวมตัวกัน อยู่บ้านเป็นหลัก รักษาระยะห่างทางสังคม 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆ ครั้งละ 20 วินาที
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีการรวมกลุ่มในจุดต่างๆ อยู่บ้าง เช่น ร้านน้ำชา ซึ่งจะให้หน่วยในพื้นที่ดูแล อีกทั้งบางมัสยิดประมาณ 10 แห่ง ยังมีการละหมาดญมาอะฮ์ หรือละหมาดหมู่ ให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยตรวจสอบ ให้ถือปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี มองว่าการอาซานเพื่อความเป็นสิริมงคล และละหมาดที่บ้าน ถ้าตั้งใจแล้วถือว่าได้บุญเหมือนกัน หากยังมีการฝ่าฝืนละหมาดหมู่ อาจต้องเชิญตัวมาพบปะพูดคุย
