xs
xsm
sm
md
lg

ผวจ.นราฯ ออกมาตรการ “ล็อกดาวน์” สั่งเข้มระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาส ออกมาตรการเข้มระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนราธิวาส ลงนามในประกาศจังหวัดนราธิวาส ระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล ลงวันที่ 29 มีนาคม 2563 โดยมีสาระสำคัญว่า ปัจจุบันพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายอำเภอ และพบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคไปสู่ประชาชนในวงกว้าง การควบคุมพื้นที่ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่กระจายของโรคอย่างเข้มข้น

โดยมีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การป้องกันโรค การฆ่าเชื้อโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค การไปรษณีย์ อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด

ห้ามผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านหรือเอกเทศ สำหรับที่แยกกันหรือกักกัน และห้ามข้ามเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรการ 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 


กำลังโหลดความคิดเห็น