xs
xsm
sm
md
lg

ทีมสอบสวนโรคตรังหนักใจผู้ป่วยรายแรกไม่ให้ความร่วมมือ หลังถูกโซเชียลเผยชื่อ-ที่อยู่ และข้อมูลแบบผิดๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
ตรัง - ทีมสอบสวนโรค จ.ตรัง รายงานผู้ติดเชื้อรายแรกพบกลุ่มเสี่ยงน้อย เพราะผู้ป่วยป้องกันตนเองอย่างดี หลังกลับจาก จ.ภูเก็ต แต่หลังจากชื่อ และที่อยู่หลุดออกไป ทำให้ผู้ป่วยไม่ไว้วางใจที่จะให้ความร่วมมือ

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ร่วมกันของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง เรียกประชุมนายอำเภอ หรือผู้แทนนายอำเภอจากทั้ง 10 อำเภอของ จ.ตรัง เพื่อรับทราบ และสรุปสถานการณ์การระบาดล่าสุดของไวรัสโควิด-19 ในระดับประเทศ และระดับจังหวัด โดยมี นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง พญ.จิรวรรณ อารยะพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง และ นพ.ไกรสร โตทับเที่ยง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนโรคเข้าให้ข้อมูล

โดยได้ยืนยันผลพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของ จ.ตรัง เป็นหญิงอายุประมาณ 22 ปี ชาว อ.เมืองตรัง ที่เดินทางกลับจากการทำงานที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต โดยมีอาการป่วย เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรัง เมื่อวันศุกร์ช่วงบ่าย (20 มี.ค.) จากนั้นทีมแพทย์ได้ตรวจร่างกายเบื้องต้นพบผลเป็นบวก และได้รับการยืนยันผลตรวจพบเชื้อเมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลการสอบสวนโรคพบว่า พบกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ในวงแคบๆ แค่ 2 กลุ่ม คือ คนใกล้ชิดที่บ้าน โดยเฉพาะสามี และทีมหมอพยาบาลที่โรงพยาบาลตรัง ขณะผู้ป่วยไปพบแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลก็มีขั้นตอนการปฏิบัติกับผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อกลุ่มนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้ เพราะผู้ติดเชื้อรายนี้รับผิดชอบต่อสังคม และป้องกันตนเองอย่างดี ขณะเดินทางกลับจาก จ.ภูเก็ต โดยทราบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่เสี่ยงคือ จ.ภูเก็ต จึงป้องกันตนเองอย่างดี เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และมาถึงก็กักตัวเองภายในขนำ แยกไปอยู่ส่วนตัวกับสามี ไม่ได้คลุกคลีกับบุคคลอื่น
 


 
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเบื้องต้นผู้ป่วยให้ความร่วมมืออย่างดีกับทีมสอบสวนโรค แต่ต่อมาปรากฏชื่อที่อยู่ของผู้ป่วยหลุดผ่านทางสื่อ ทำให้ผู้ป่วยกังวล และไม่ไว้วางใจที่จะให้ความร่วมมือ หรือให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการทำงานที่ จ.ภูเก็ต ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างกับทีมสอบสวนโรคอีก ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลว่าผู้ป่วยรายนี้ทำงานที่ไหน อย่างไร ใกล้ชิดกับใครกี่คน เพื่อจะได้แจ้งข้อมูลไปทาง จ.ภูเก็ต ให้เข้าไปทำงานต่อ เพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ต่อไป ทำให้ทีมแพทย์พยาบาลสอบสวนโรคหนักใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของผู้ป่วยตามมา

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า สื่อกระแสหลักไม่ได้เปิดเผยชื่อ ที่อยู่ของผู้ป่วยรายนี้แต่อย่างใด แต่พบเป็นสื่อสังคมโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก รวมทั้งยังระบุ และแชร์ข้อมูลแบบผิดๆ ด้วยว่า ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาด้วยรถทัวร์สายตรัง-ภูเก็ต จะต้องมีผู้สัมผัสใกล้ชิดหลายคน และมาถึง จ.ตรัง ยังไปชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าอีกด้วย ซึ่งเป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น จนสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนทั่วไปที่ได้อ่านข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เชื่อว่าคนปล่อยชื่อ ที่อยู่ผู้ป่วย น่าจะเกิดจากบุคคลที่รู้จัก ซึ่งไม่ใช่เกิดจากทีมสอบสวนโรค
 




กำลังโหลดความคิดเห็น