ยะลา - ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยืนยันไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 พร้อมระบุทางจังหวัดดำเนินมาตรการในการป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง เตือนผู้โพสต์โซเชียลทำให้ประชาชนตื่นตระหนก อาจมีความผิดในฐานเปิดเผยข้อมูลเท็จ
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศรียะลา ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายสุชาติ อนันตะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดหลังมีกระแสข่าวในจังหวัดยะลา ว่า มีชาวยะลาเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ หวั่นติดเชื้อไวรัส COVID-19
โดย นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ออกประกาศจังหวัดยะลา ชี้แจงกรณีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศแต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) ได้มีการเรียกผู้บริหารของหน่วยงานดังกล่าว พร้อมด้วยสาธารณสุขจังหวัดยะลา เข้าร่วมประชุมหารือและสอบถาม พบว่า ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลีนั้นไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 แต่อย่างใด และหลังจากกลับมาก็ผ่านการตรวจร่างกายคัดกรองจากจุดคัดกรองท่าอากาศยานแล้ว ก็ไม่พบว่ามีไข้ หรือมีอาการที่ต้องสงสัย และล่าสุดได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
“โดยขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยะลา อย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือแต่อย่างใด และยืนยันว่าในขณะนี้ จังหวัดยะลา ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สำหรับพนักงานของธนาคาร 2 รายนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ติดตามตรวจดูอาการอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่พบว่ามีอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่โพสต์ข้อความทางสื่อโซเชียล ซึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชนให้ระวังอาจจะมีความผิดในฐานเปิดเผยข้อมูลเท็จ ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมทำการตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่โพสต์ดังกล่าวด้วย หากมีความผิดจริงก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด
ทางด้าน นายสุชาติ อนันตะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ยืนยันว่า พื้นที่จังหวัดยะลายังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 แต่อย่างใด ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเองได้มีการปฏิบัติตามมาตรการในการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเป็นขั้นตอน ในส่วนของการเฝ้าระวังในพื้นที่นั้น หากผู้ใดมีญาติที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยงขอให้ปฏิบัติตนตามข้อแนะนำของมาตรการป้องกันตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากมีข้อสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อให้เดินทางมายังโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจร่างกายและป้องกันการแพร่เชื้อในเบื้องต้น
