นราธิวาส - แม่ทัพภาค 4 ประชุมพบปะผู้นำศาสนาและคณะที่ปรึกษาเสริมสร้างยุติธรรมชายแดนใต้ ย้ำชัดแก้ไฟใต้ต้องใช้ความจริง ลดเงื่อนไขในพื้นที่ ส่วนกรณี จนท.ยิงชาวบ้าน 3 ศพ ที่เขาตะเว ระบุจะถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ห้องประชุมบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมผู้นำศาสนาและคณะที่ปรึกษาส่งเสริมความยุติธรรมในพื้นที่ 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ รับทราบปัญหา และข้อขัดข้องต่างๆ ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เช่น ส่วนเกี่ยวข้องกับทหาร ปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำสู่การแก้ปัญหาและกำหนดเป็นมาตรการการป้องกันให้พื้นที่เกิดความสงบสุข และส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติสุขพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นไปตามกรอบสร้างความเข้าใจกับที่ปรึกษาส่งเสริมความยุติธรรมพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นผู้นำหรือตัวแทนนักศาสนา หรือบุคคลที่มีบทบาทต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นบุคคลที่จะให้คำปรึกษาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กรณีการใช้ปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อรักษาความสงเรียบร้อย หรือมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน การปฏิบัติที่อาจจะให้เกิดการผิดพลาด ก็จะมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำในเรื่องความถูกต้อง เรื่องศาสนา วัฒนธรรม หรืออื่นๆ เพื่อลดผลกระทบและความไม่เข้าใจ ให้การปฏิบัติเกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
ในส่วนข้อเสนอในที่ประชุม ผู้นำศาสนาและที่ปรึกษาฯ แม่ทัพ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นกรณีเหตุเจ้าหน้าที่สำคัญผิด และใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย ที่เขาตะเว บ้านอาแน ต.บองอ อ.ระแง จ.นราธิวาส ในเรื่องดังกล่าว กองทัพภาคที่ 4 ได้ดำเนินการตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าตามผิด ผู้เสียหาย ญาติ หรือทายาท จะต้องได้รับจ่ายเงินเยียวยาให้เหมาะสม และยืนยันทหารที่ก่อเหตุจะถูกดำเนินคดีตามกระบวนกฎหมายยุติธรรมชั้นศาลปกติ ไม่ใช่ศาลทหารที่บางฝ่ายให้ข่าวแต่อย่างใด จากนี้จะเป็นอำนาจของศาลยุติธรรม ต้องเคารพอำนาจศาล
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยอย่าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนประโยชน์กับการค้ายาเสพติดเด็ดขาด หากพบจะต้องลงโทษสถานหนักไม่มีข้อละเว้น เพราะถือเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และมาตรการการปรามปรามยาเสพติดจะดำเนินการอย่างเข้มข้นกับผู้ค้า ซึ่งเป็นภัยแทรกซ้อนหรือจะเป็นท่อน้ำเลี้ยง และทำลายลูกหลานคนพื้นที่ ตลอดจนนำเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์ความรุนแรง รวมถึงมาตรการ ยุทธการ หรือยุทธวิธี
การปฏิบัติการปราบปรามเพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุความไม่สงบ การจำกัดเสรีกลุ่มก่อเหตุความรุนแรง ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือกับประชาชนหากมีข้อมูลให้แจ้งมาที่แม่ทัพภาค 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง “เรายืนยันว่าการใช้ความจริง และขจัดเงื่อนไข จะแก้ปัญหาความไม่สงบได้ และนำพาสันติสุขคืนพื้นที่ได้อย่างแน่นอน” พล.ท.พลศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวทิ้งท้าย
