ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดทุกวัน ปัญหาลิงเขาโต๊ะแซะกัดนักท่องเที่ยว 90% เป็นชาวรัสเซียที่มีพฤติกรรมทำลิงโมโห เตือนแล้วไม่ฟัง ส่วนลิงมีเพิ่มมากขึ้น ด้านจังหวัดเตรียมรื้อมาตรการดูแล ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเตรียมล้อมคอกทำป้ายเตือนเพิ่ม
จากกรณีเกิดเหตุลิงบริเวณเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กัดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจนเลือดสาด และกลายเป็นกระแสในสื่อโซเชียล เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายภคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองการท่องเที่ยว และหลังเกิดเหตุดังกล่าวก็มีการเรียกร้องให้จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการหารือเพื่อหาแนวทางในการป้องกันร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผบก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สารวัตรท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ลงพื้นที่บริเวณเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อมอบอุปกรณ์ทำแผลและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่นายสมเพียร โกศัยพฤกษ์ ชาวบ้านซึ่งเป็นร้านขายของใกล้บริเวณฐานที่ 8 และนายศภเกียรติ สงสวรรณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อนำไปใช้สำหรับการทำแผลให้แก่คนที่ถูกลิงทำร้าย
พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผบก.ทท.3 กล่าวว่า จากการสังเกตพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบริเวณเขาโต๊ะแซะ เพื่อชมความสวยงามของเมืองภูเก็ต และชมลิงที่มีอยู่จำนวนมาก พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พยายามที่จะเข้าไปใกล้ชิดกับลิง รวมทั้งการให้อาหารในลักษณะหลอกล่อลิงให้เข้ามายื้อยึด ทำให้ลิงเกิดความโมโหและเข้ามาทำร้ายได้ แต่พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทุกคน มีเพียงบางคน บางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อยากสัมผัสลิงใกล้ชิดแล้วถ่ายภาพประทับใจส่งให้เพื่อนดู
สำหรับวิธีการแก้ปัญหา หลังจากนี้คงจะต้องเพิ่มมาตรการในการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ซึ่งป้ายที่มีอยู่แล้วไม่เพียงพอ ต้องทำเพิ่มขึ้น ข้อความจะต้องกระชับและภาพที่ใส่ในป้ายจะต้องบอกว่าการให้อาหารที่ผิดวิธีเป็นแบบใด เพื่อให้นักท่องเที่ยวจะได้เข้าใจมาก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีจุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะเท่าที่ทราบมามีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายจากลิงเกือบทุกวัน
ขณะที่ นายศภเกียรติ สงสุวรรณ และนายสมเพียร โกศัยพฤกษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ลิงกัดนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ราย และ 90% ของนักท่องเที่ยวที่ถูกลิงกัดเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาเอง และจะมากันเป็นกลุ่ม เมื่อขับรถมาถึงก็จะเข้าไปเล่นหลอกล้อกับลิงด้วยการให้อาหารแบบผิดวิธี บางครั้งก็จะเล่นโยนอาหารกันไปมาเพื่อให้ลิงไล่ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลิงโมโหและทำร้ายนักท่องเที่ยวได้
นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้สื่อสารกันไม่รู้เรื่องเพราะไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ ประกอบกับความคึกคะนอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและหามาตรการป้องกัน เพราะปัจจุบันจำนวนลิงบริเวณเขาโต๊ะแซะมีมากกว่า 1,000 ตัว มีการทำหมันไปแล้ว 200 ตัว และแบ่งออกเป็น 2 ฝูง เมื่อลิงมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ยากแก่การควบคุม แม้จะมีป้ายเตือน และป้ายห้ามให้อาหารแต่ก็ไม่เพียงพอ
จากกรณีเกิดเหตุลิงบริเวณเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กัดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจนเลือดสาด และกลายเป็นกระแสในสื่อโซเชียล เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายภคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองการท่องเที่ยว และหลังเกิดเหตุดังกล่าวก็มีการเรียกร้องให้จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการหารือเพื่อหาแนวทางในการป้องกันร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผบก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สารวัตรท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ลงพื้นที่บริเวณเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อมอบอุปกรณ์ทำแผลและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่นายสมเพียร โกศัยพฤกษ์ ชาวบ้านซึ่งเป็นร้านขายของใกล้บริเวณฐานที่ 8 และนายศภเกียรติ สงสวรรณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อนำไปใช้สำหรับการทำแผลให้แก่คนที่ถูกลิงทำร้าย
พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผบก.ทท.3 กล่าวว่า จากการสังเกตพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบริเวณเขาโต๊ะแซะ เพื่อชมความสวยงามของเมืองภูเก็ต และชมลิงที่มีอยู่จำนวนมาก พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พยายามที่จะเข้าไปใกล้ชิดกับลิง รวมทั้งการให้อาหารในลักษณะหลอกล่อลิงให้เข้ามายื้อยึด ทำให้ลิงเกิดความโมโหและเข้ามาทำร้ายได้ แต่พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทุกคน มีเพียงบางคน บางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อยากสัมผัสลิงใกล้ชิดแล้วถ่ายภาพประทับใจส่งให้เพื่อนดู
สำหรับวิธีการแก้ปัญหา หลังจากนี้คงจะต้องเพิ่มมาตรการในการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ซึ่งป้ายที่มีอยู่แล้วไม่เพียงพอ ต้องทำเพิ่มขึ้น ข้อความจะต้องกระชับและภาพที่ใส่ในป้ายจะต้องบอกว่าการให้อาหารที่ผิดวิธีเป็นแบบใด เพื่อให้นักท่องเที่ยวจะได้เข้าใจมาก ซึ่งหลังจากนี้จะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีจุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะเท่าที่ทราบมามีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายจากลิงเกือบทุกวัน
ขณะที่ นายศภเกียรติ สงสุวรรณ และนายสมเพียร โกศัยพฤกษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ลิงกัดนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ราย และ 90% ของนักท่องเที่ยวที่ถูกลิงกัดเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาเอง และจะมากันเป็นกลุ่ม เมื่อขับรถมาถึงก็จะเข้าไปเล่นหลอกล้อกับลิงด้วยการให้อาหารแบบผิดวิธี บางครั้งก็จะเล่นโยนอาหารกันไปมาเพื่อให้ลิงไล่ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลิงโมโหและทำร้ายนักท่องเที่ยวได้
นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้สื่อสารกันไม่รู้เรื่องเพราะไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ ประกอบกับความคึกคะนอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและหามาตรการป้องกัน เพราะปัจจุบันจำนวนลิงบริเวณเขาโต๊ะแซะมีมากกว่า 1,000 ตัว มีการทำหมันไปแล้ว 200 ตัว และแบ่งออกเป็น 2 ฝูง เมื่อลิงมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ยากแก่การควบคุม แม้จะมีป้ายเตือน และป้ายห้ามให้อาหารแต่ก็ไม่เพียงพอ
