xs
xsm
sm
md
lg

วางทุ่นกำหนดเขตคุ้มครองพะยูน พร้อมวางกติกาชุมชน ห้ามนั่งเรือไล่ต้อนชมพะยูนเด็ดขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - เขตห้ามล่าฯ หมู่เกาะลิบง และชาวบ้าน วางทุ่นกำหนดพื้นที่คุ้มครองพะยูน พร้อมวางกติกาชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้นำนักท่องเที่ยวนั่งเรือไล่ต้อนชมพะยูน หลังได้ขึ้นเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน



นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง นำเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ตัวแทนประมงพื้นบ้าน กลุ่มพิทักษ์ดุหยง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.เกาะลิบง ร่วมกันนำทุ่น จำนวน 6 ลูก สำหรับผูกเรือ ออกไปวางบริเวณพื้นที่หน้าเขาบาตูปูเต๊ะ-หอชมพะยูน หมู่ 4 ต.เกาะลิบง เชื่อมต่ออ่าวทุ่งจีน-แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ซึ่งเป็นแหล่งหญ้าทะเลผืนใหญ่ และถิ่นอาศัยสำคัญของพะยูนฝูงใหญ่ของประเทศไทยที่มีอยู่มากกว่า 180 ตัว เพื่อกำหนดพื้นที่คุ้มครองแหล่งหญ้าทะเล คุ้มครองพะยูน ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว เป็นการต้อนรับสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลอันดามัน ประกอบกับเป็นการเดินหน้าบริหารจัดการคุ้มครองพื้นที่ให้เข้มข้นอย่างเป็นระบบและครอบคลุม หลังจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง-เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้รับการประกาศเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน ลำดับที่ 45 และ 46 ในภูมิภาคอาเซียน และถือเป็นมรดกอาเซียนลำดับที่ 5 และ 6 ของประเทศไทย

ทั้งนี้ ทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และชุมชนได้ร่วมกันกำหนดกติกาชุมชนนับ 10 ข้อ ในการนำเรือเข้าชมพะยูนในบริเวณดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการกินหญ้าของพะยูน หรือป้องกันการนำเรือไล่ต้อนชมพะยูน ได้แก่ 1.ให้ใช้เชือกผูกเรือบริเวณแนวทุ่นที่กำหนดไว้เท่านั้น 2.ห้ามใช้เรือสปีดโบ๊ตเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยวชมพะยูน 3.ให้นั่งเรือแคนูของชุมชนเข้าไปในพื้นที่ชมพะยูน แต่ต้องให้ห่างจากพะยูนในระยะประมาณ 15 เมตร 4.ห้ามขับเรือไล่ตามพะยูน หรือถ่อเรือต้อนพะยูน และห้ามส่งเสียงดังรบกวนพะยูนและสัตว์ป่าอื่นๆ 5.ห้ามถ่ายภาพนิ่ง ภาพใต้น้ำ หรือถ่ายวิดีโอใต้น้ำ ที่เป็นการรบกวนพะยูนและสัตว์ป่าอื่นๆ และให้มีการดูพะยูนจากกล้องส่องทางไกล

6.ห้ามใช้เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อพะยูน หรือผิดกฎหมายบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าทุกชนิด 7.ห้ามให้อาหารปลา สัตว์ป่า และห้ามทิ้งขยะหรือของเสียจากเรือทุกประเภทลงในทะเล 8.ให้เรือผู้ประกอบการท่องเที่ยวลงทะเบียนเรือท่องเที่ยวพร้อมบุคคล ต่อเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง 9.ให้ อบต.เกาะลิบง และเขตห้ามล่าฯ จัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าท่องเที่ยวในเขตห้ามล่าฯ และ 10.กำหนดให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ เป็นผู้ดูแลควบคุมการท่องเที่ยว และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยประจำการบริเวณสะพานหอชมพะยูน


นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า ในอนาคตจะกำหนดให้ชมพะยูนจากที่สูงบนเขาบาตูปูเต๊ะ ขณะนี้ได้ทำหนังสือขออนุมัติงบประมาณไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อสร้างบันไดขึ้นไปชมพะยูนบนลานชมพะยูนบนเขาบาตูปูเต๊ะ แล้ว ในอนาคตนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมพะยูนบนภูเขาได้ โดยไม่ต้องนั่งเรือ ซึ่งการวางทุ่นกำหนดเขตพื้นที่นั้นทางเขตห้ามล่าฯ ร่วมกับชุมชนทำต่อเนื่องมาตลอด ทั้งทุ่นกำหนดเขตแนวหญ้าทะเล แหล่งพะยูน ทุ่นสำหรับผูกเรือ
 
และในเดือนธันวาคมนี้ จะวางเพิ่มในบริเวณแหล่งหญ้าทะเลหาดมดตะนอย เพิ่มอีก 15 ลูก ส่วนในปี 2563 จะมีการวางทุ่นเพิ่มอีกในหลายจุด ตามแนวหญ้าทะเลรอยต่อร่องน้ำ เพื่อป้องกันและระวังเครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลหายาก แต่จะไม่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวชุมชน และเพื่อคุ้มครองแหล่งหญ้าทะเลผืนใหญ่ในบริเวณพื้นที่อุทยานมรดกอาเซียน ให้เป็นแหล่งอาศัย แหล่งอาหาร และแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำวัยอ่อนในทะเลตรัง คงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลตรังให้ยั่งยืนตลอดไป

ด้าน นายสุเทพ ขันชัย ประธานกลุ่มพิทักษ์ดุหยง กล่าวว่า ตนเองและชุมชนเห็นด้วยที่มีการวางทุ่นกำหนดเขตพื้นที่ในการดูพะยูน โดยให้เรือท่องเที่ยวผูกเรือไว้ที่ทุ่น แล้วลงเรือแคนูของชุมชนเข้าไปดู เป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ประชาชนในชุมชน และเป็นการจัดระเบียบความเรียบร้อย ไม่ให้เป็นการรบกวนพะยูน หรือไม่ให้มีการไล่ชมพะยูน ถือว่าทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ และชุมชนร่วมกันยกระดับแผนบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นรูปธรรมร่วมกันมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น