นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านยังพยายามรื้อหาทรัพย์สินที่ยังหลงเหลือภายในซากบ้านเรือนที่เสียหายจากกำแพงยักษ์ถล่มทับ แม้จะถูกกันเป็นพื้นที่อันตราย ขณะที่ความช่วยเหลือเยียวยายังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
จากกรณีเหตุการณ์กำแพงขนาดใหญ่ถล่มทับบ้านเสียหายอย่างหนักถึง 5 หลัง ภายในซอยข้างศาลแขวง หมู่ 9 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา กว่า 20 ชีวิตที่อาศัยอยู่ในบ้านทั้ง 5 หลังหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด โดยวานนี้ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งการดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้อง
ล่าสุด วันนี้ (7 พ.ย.) ชาวบ้านบางรายยังพยายามเสี่ยงเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน เครื่องอุปโภคบริโภคที่ยังหลงเหลือพอจะนำเอาออกมาใช้ได้ ออกมาจากซากบ้านเรือนของตัวเอง แม้ว่าในซากบ้านจะถูกประกาศเตือนให้เป็นพื้นที่อันตราย แต่ยังคงต้องเสี่ยงเนื่องจากไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปซื้อของใช้ในครัวเรือนใหม่ เช่น ตู้เย็น หม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ภายในครัวเรือน เพื่อต้องการนำไปใช้ในบ้านเช่าที่ได้เช่าอาศัยชั่วคราว จนกว่าจะแก้ไขปัญหาการสร้างบ้านขึ้นใหม่ หรือการเยียวยาตามขั้นตอนความรับผิดชอบ
นายอลงกรณ์ ดรุณวรรณ เจ้าของบ้านเลขที่ 77/9 หนึ่งใน 5 หลังที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า วานนี้ได้มีการประชุมกับตัวแทนของเจ้าของที่ดิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเคียน และทางฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านจากเหตุการณ์นี้ โดยข้อสรุปในชั้นต้นนั้นได้หาที่อยู่กันก่อนเป็นลำดับแรก ลำดับต่อมาคือการสำรวจความเสียหาย ตัวแทนของเจ้าของที่ดินได้รับเอารายละเอียดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านทั้งหมด ทั้งตัวบ้าน และทรัพย์สิน มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ในบ้านถูกทับเสียหายไปสิ้นเชิง 2 คัน บ้านพังทั้งหลัง 4 หลัง บางส่วน 1 หลัง แต่มีปัญหาด้านความมั่นคงแล้ว
“การเยียวยาชดเชยนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากตัวแทนของเจ้าของที่ดินแจ้งว่า เจ้าของที่ดินเดินทางไปต่างประเทศ ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ขั้นแรกการพูดคุยอยู่ในความพอใจแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เมื่อกลับมาแล้วจะมีการเชิญหารือกันอีกครั้งเพื่อสรุปแนวทาง ยังไม่รู้ว่าจะได้แนวทางไหน” นายอลงกรณ์ กล่าว
ขณะที่การแก้ไขปัญหาพื้นที่ นายจรรยา ตัดสายชล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเคียน ได้สั่งการให้ฝ่ายโยธา เข้าทำการควบคุม และสั่งการให้รื้อถอนแนวกำแพงทางด้านทิศเหนือที่มีความเสี่ยง และเริ่มไม่มีความเสถียร โดยให้รื้อออกทั้งหมดทันทีเพื่อป้องกันการพังเพิ่มเติม และอาจลากเอาส่วนอื่นพังตามลงไปอีก ส่วนขั้นตอนแบบการก่อสร้างที่ได้ดำเนินการไม่ตรงกับการขออนุญาตนั้น ฝ่ายนิติกรอยู่ระหว่างดำเนินการ
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ ระทึก! กำแพงยักษ์ถล่มทับบ้าน 5 หลังในเมืองคอน กว่า 20 ชีวิตหนีรอดหวุดหวิด
