ปัตตานี - “พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ” ผบช.ภาค 9 เผยความคืบหน้าในคดีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ สภ.ไม้แก่นหลังเก่า ล่าสุด คุมตัวได้แล้ว 2 ต้องสงสัย เตรียมออกหมายจับ 1 คน
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนสรุปสถานการณ์เหตุความไม่สงบในพื้นที่ และติดตามความคืบหน้าในคดีต่อเนื่อง 4 คดี คือ คดีที่ 1 คนร้ายปล้นรถกระบะของ อบต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง คดีที่ 2 คนร้ายนำรถที่ปล้นไปประกอบระเบิดแล้วไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ข้าง สภ.ไม้แก่นหลังเก่า จนทำให้บ้านพักตำรวจ และประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง คดีที่ 3 คนร้ายพยายามลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 44 และคดีที่ 4 หลังวางระเบิดคนร้ายหลบหนีก่อนจะเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และถูกวิสามัญ 2 ราย ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
ซึ่งทั้ง 4 คดีเป็นคดีต่อเนื่องคืนเดียวกันของกลางดึกวันที่ 31 ต.ค.ถึง 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้กล่าวสรุปสถานการณ์ และผลความคืบหน้า โดยการสืบสวนสอบสวนทั้ง 4 คดีมีความคืบหน้าไปมาก รู้กลุ่มที่ก่อเหตุ และมีความเชื่อมโยงกับหลายคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้กระจายกำลังลงพื้นที่เป้าหมายปิดล้อมพื้นที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะบ้านของผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในระบบรายชื่อที่คาดว่าจะร่วมก่อเหตุ แต่ปรากฏว่าไม่พบตัว เชื่อน่าจะไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้านี้
ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากหลังจากที่รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยตามกฎอัยการศึก จำนวน 2 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างกระบวนการซักถาม ส่วนเรื่องพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นกำลงรอผลว่าจะเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัย หรือกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ต้องรออีกสักระยะ ส่วนผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ควบคุมตัวตรวจสอบประวัติแล้วเป็นแนวร่วมอยู่ในพื้นที่
ส่วนคดีวิสามัญคนร้าย 2 รายนั้น เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่อง 2 เหตุ คือ เหตุวางระเบิดแล้วคนร้ายหลบหนีไปปะทะกับเจ้าหน้าทหาร จนคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งศพได้มอบให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว แนวทางการสืบสวนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้นั้นตรวจสอบแล้วพบว่า เคยก่อเหตุในพื้นที่ไปแล้ว 5-6 คดี ซึ่งน่าจะออกหมายจับได้ก่อน 1 คน ในคดีลอบวางระเบิดตามพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากพบหลักฐานว่าเป็นผู้ที่ประกอบระเบิด ส่วนการก่อเหตุทั้ง 4 คดีในคืนเดียวกันนั้น จากการสืบสวนพบว่า เป็นการก่อเหตุของคนละกลุ่ม แต่นัดกันก่อเหตุพร้อมกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ตนได้ให้แนวทางการสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีคดีที่ต้องติดตามอีกหลายคดีที่เชื่อมโยง และเกี่ยวข้องกับความมั่นคง
