xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านโวย! ทางหลวงชนบทสร้างสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟชุมพร กำแพงสูง 4 เมตร ทำน้ำท่วม-ที่ดินตาบอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชุมพร - ชาวบ้านโวยกรมทางหลวงชนบทแก้ไขแบบก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟ มีการก่อกำแพงสูง 4 เมตร ปิดกั้นทางเข้าออกจนกลายเป็นที่ดินตาบอด ฝนตกน้ำท่วมขัง คุณยายวัย 66 ปี ฐานะยากจนเจ้าของบ้าน”โครงการเทิดไท้องค์ราชันย์” ก็โดนด้วย ขณะที่ “ ส.ส.ลูกหมี” ลงพื้นที่พบมีความเดือดร้อนจริง พร้อมช่วยประสานผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือเร่งด่วน


เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ ( 28 ต.ค.) ที่บริเวณก่อสร้างทางคู่ขนานสะพานข้ามทางรถไฟ หมู่ที่ 1 ตำบลตาดแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านกว่า 10 ครัวเรือน รวมกว่า 50 คน มารวมตัวกันพร้อมติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ 2 ป้ายไว้ที่ริมทางเขียนข้อความว่า “กรมทางหลวงชนบททำถนนแบบนี้น้ำท่วมบ้าน เข้าออกไม่ได้” และอีกหลายป้ายข้อความที่ชาวบ้านถือมายืนประท้วงร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเช่น “ท่านศักดิ์สยาม มาดูถนนสาย จ.ผังเมืองรวมชุมพรด้วย ชาวบ้านเดือดร้อน ตรงนี้น้ำไม่เคยท่วมทำถนนสูงทำไม

โดยชาวบ้าน กล่าวว่า ถนนสาย จ.ผังเมืองรวมชุมพร เป็นถนนทางคู่ขนานเลี่ยงเมือง เริ่มก่อสร้างจากถนนเอเชีย 41 หน้ามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชุมพร ผ่านตำบลตากแดดและตำบลบางหมากไปถึงสี่แยกไฟแดงถนนสายปากน้ำชุมพร ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร จุดที่มีปัญหาคือบริเวณก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟมีความสูงมากกว่าตึก 2 ชั้น ก่อนก่อสร้างได้มีการทำประชาพิจารณ์ชาวบ้านเห็นชอบด้วยกับแบบก่อสร้างเป็นสะพานคู่ขนานยกระดับความสูงข้ามทางรถไฟด้วยเสาตอม่อโดยไม่มีการทำถนนสูงแต่อย่างใดด้านล่างเป็นพื้นที่โล่งมีเพียงตอม่อ และเทพื้นคอนกรีตมีสวยหย่อมทำตัวหนอนสวยงามพร้อมท่อระบายน้ำ ซึ่งชาวบ้านสามารถเดินผ่ายลอดไปมาได้

ชาวบ้านผู้เดือดร้อน กล่าวอีกว่า แต่เมื่อมีการก่อสร้างจริงกลับไม่เป็นไปตามแบบเดิมที่ทำประชาพิจารณ์ไว้ มีการถมถนนไต่ระดับจากเชิงสะพานสูงกว่า 2 เมตรไปที่คอสะพาน และต่อมามีการตอกเสาเข็มเทพื้นคอนกรีตเพื่อจะกั้นกำแพงด้านข้างสะพานสูงกว่า 2 เมตร เป็นระยะทางยาว 400 เมตรไปจรดกับที่ดินของการรถไปแห่งประเทศไทย เมื่อฝนตกทำให้เกิดท่วมบ้านเรือนมาตลอดทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อนเลย และหากมีการก่อสร้างกำแพงสูง 4 เมตรแล้วเสร็จตลอดแนว 400 เมตร ชาวบ้านกว่า 10 ครัวเรือนบริเวณนี้จะกลายเป็นที่ดินตาบอดไม่มีทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะได้เลย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวนี้จะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ทั้งๆที่ก่อนบริเวณดังกล่าวนี้ก่อนเคยเป็นทางสาธารณะและลำห้วยระบายน้ำสู่คลองนาคราชชาวบ้านเคยไม่เดือดร้อน แต่ปัจจุบันหายไปเพราะถูกถมเพื่อสร้างถนนและสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟ จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย

ด้าน นางแวว โมรานอก อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านโครงการเทิดไท้องค์ราชันย์ เลขที่ 9809 หมู่ 1 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนและสามี ฐานะยากจนไร้ที่อยู่อาศัยต่อมาเมื่อปี 2550 ตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 สร้างบ้านโครงการเทิดไท้องค์ราชันย์ ให้กับตนและสามีได้อยู่อาศัย หลังจากมีการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามทางรถไฟ เมื่อฝนตกน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านตนทุกครั้งจนได้รับความเดือดร้อนมาตลอด และหากมีการก่อสร้างกำแพงสูงปิดกั้นใต้สะพานดังกล่าวแล้วเสร็จซึ่งอยู่ติดกับหน้าบ้านเทิดไท้องค์ราชันย์ที่ตนอยู่อาศัยบ้านตนก็จะกลายเป็นที่ตาบอดไม่มีทางออกสู่ถนนสาธารณะได้เลย ซึ่งจะต้องเดินลัดเลาะผ่านที่ดินของคนอื่น ถ้าหากอนาคตชาวบ้านมีการขายหรือที่ดินถูกเปลี่ยนมือไปจากเจ้าของเดิมและมีการทำรั้วปิดกันตนจะหมดทางออกโดยสิ้นเชิง

ขณะที่ นายสุนัย ชั่งสัจจา กำนันตำบลตากแดด กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ซึ่งตนและชาวบ้านทั้งหมดจะทำหนังสือเดินทางไปยื่นร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้ได้รับทราบปัญหาและให้การช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายชุมพล จุลใส หรือ “ส.ส.ลูกหมี ” เขต 1 ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ หลังทราบเรื่องได้ลงพื้นที่มาพบกับชาวบ้านและผู้นำชุมชนพร้อมกับสอบถามถึงปัญหาความเดือดร้อน และได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายสมเกียรติ ตระกูลฮุน ผอ.แขวงทางหลวงชนบทชุมพร และได้เปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนฟังไปพร้อมกัน โดยนายสมเกียรติ์กล่าวกับ “ส.ส.ลูกหมีว่า” เรื่องนี้ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมชุมพร และตนได้แจ้งไปยังบริษัทผู้รับเหมาโครงการว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเทาบัญหาความเดือดร้อนได้อย่างไรบ้าง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา เมื่อ ส.ส.เร่งรัดมาตนก็จะรีบดำเนินการให้โดยเร็ว

นายชุมพล จุลใส หรือ “ ส.ส.ลูกหมี” กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ก็พบว่าชาวบ้านมีความเดือดร้อนจริงซึ่งก็จะรีบดำเนินการช่วยเหลือต่อไป และจะเรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรลงมาดูพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อจะได้รู้ถึงปัญหาที่แท้จริงและจะแก้ไขปัญหาช่วยเหลือกันอย่างไรต่อไป หากระดับจังหวัดไม่สามารถดำเนินการได้ก็ต้องไปถึงผู้มีอำนาจในกระทรวง และรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น