สุราษฎร์ธานี - นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน พร้อมภรรยาชาวไทย มาท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ขณะขับรถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ถูกคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบชักมีดจี้ชิงสร้อยคอทองคำ 2 เส้น หลบหนีลอยนวล
วันนี้ (6 มิ.ย.) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อายุ 60 ปี สัญชาติเยอรมัน พร้อมด้วย ภรรรยาชาวไทย ทราบชื่อคือ นางยงค์ น้อยพรม อายุ 56 ปี ภูมิลำเนา อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.แดนชัย บุญธรรม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แจ้งว่าได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย และได้เช่ารถจักรยานยนต์ขับขี่เพื่อท่องเที่ยวชมธรรมชาติไปยังที่ต่างๆ และสะดวกในการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย
ขณะที่สามีเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีฟ้า ทะเบียน กผ 3551 สุราษฎร์ธานี โดยมีตนนั่งซ้อนท้าย กลับจากไปท่องเที่ยวชมน้ำตกบางขุนศรี ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย โดยใช้เส้นทางถนนคอนกรีต และเป็นลูกรังเป็นบางช่วง มีป้ายว่า บ้านละไม และบ้านแม่น้ำ ซึ่งเป็นถนนเปลี่ยว สองข้างทางเป็นป่าและสวนเกษตรของชาวบ้าน ระหว่างนั้นได้มีชายไทย 1 คน ขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงจำสีและทะเบียนรถไม่ได้ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ได้ขับตามหลังมา และได้ประกบพร้อมพูดสำเนียงคล้ายคนปักษ์ใต้ ได้ใช้มีดพกสั้นจี้บังคับให้ตนถอดสร้อยคอทองคำ 1 บาท และสร้อยข้อมือ 2 สลึง
ด้วยความตกใจกลัวว่าคนร้ายจะทำร้าย จึงได้ถอดสร้อยคอพร้อมสร้อยข้อมือให้ ระหว่างนั้นสามีตนซึ่งตัวใหญ่กว่าคนร้ายได้ขัดขืนทำให้คนร้ายใช้มีดแทงสวนมาที่สามี 1 ครั้ง แต่สามีได้ไหวตัวหลบแต่ไม่พ้น ถูกคมมีดแทงเข้าที่หัวไหล่ด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังจากเกิดเหตุสามีจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ที่หน่วยบริการประชาชนบ้านละไม ตำบลมะเร็ต ท้องที่ของ สภ.บ่อผุด และได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.แดนชัย บุญธรรม รองสาวัตรสอบสวน สภ.บ่อผุด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมย้อนรอยเส้นทางถนนทางลัด ระหว่าง ตำบลมะเร็ต และตำบลแม่น้ำ ซึ่งเป็นถนนเปลี่ยว สองข้างทางเป็นป่าละเมาะ และเป็นสวนเกษตรของชาวบ้าน ไม่ค่อยมีบ้านเรือนของประชาชน และรอยต่อของ 2 ตำบลระหว่างตำบลบ่อผุด เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บ่อผุด และตำบลแม่น้ำ เป็นท้องที่ของ สภ.เกาะสมุย
จากการตรวจสอบยังไม่แน่ชัดว่าที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่สอบสวนของ สภ.บ่อผุด หรือเป็นเขตพื้นที่สอบสวนของ สภ.เกาะสมุย โดยจากการตรวจสอบ พบว่า ถนนดังกล่าวนานๆ จะมีรถขับผ่าน และที่พบส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์ของชาวต่างชาติที่ขับไปท่องเที่ยวเพื่อชมธรรมชาติ
จากการสอบถามชาวบ้านและชาวสวนที่ผ่านไปมา ชาวบ้านหลายรายเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีเหตุการณ์จี้ชิงทรัพย์ หรือวิ่งราวนักท่องเที่ยว แต่เพิ่งมาเกิดเรื่องขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เชื่อว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจท่องเที่ยวบนเกาะสมุยที่ซบเซา และอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน จึงทำให้คนร้ายออกอาละวาด และจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นการซ้ำเติมการท่องเที่ยวให้เสียหาย
ทางตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้ประสานไปที่ท้องที่ สภ.เกาะสมุย ว่าจุดเกิดเหตุเป็นของท้องที่ใด พร้อมส่งตำรวจสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป