xs
xsm
sm
md
lg

แม่ค้าร้องเดือดร้อนหนัก การรถไฟฯ เรียกเก็บค่าเช่าสุดแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สุราษฎร์ธานี - แม่ค้าเตรียมถวายฎีกาต่อในหลวง หลังถูกการรถไฟฯ เรียกเก็บค่าเช่าที่วันละเกือบ 7,000 บาท พร้อมครวญให้เซ็นสัญญาเปล่า ยื่นหนังสือต่อรองขอให้ลดลงวันละ 4,000 บาท ทางการรถไฟฯ ก็ไม่ยอม

นางสุรางค์ ชูยง อายุ 53 ปี แม่ค้าขายอาหารบริเวณสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงความเดือดร้อนหลังการรถไฟฯ ขึ้นค่าเช่าที่ขายของจากเดิมเดือนละ 169,000 บาท มาเป็นเดือนละ 200,000 บาท ว่า ก่อนหน้านี้สัญญาเช่าพื้นที่ขายอาหารในสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีราคาเดือนละ 169,000 บาท ต่อมาได้หมดสัญญาลงจึงได้ทำสัญญาใหม่โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คู่สัญญาเซ็นชื่อลงบนกระดาษเปล่า

แต่หลังจากนั้นทราบว่า มีการขึ้นค่าเช่ามาเป็นเดือนละประมาณ 200,000 บาท โดยเรียกเก็บเป็นรายวันๆ ละ 6,656 บาทเศษ ซึ่งเป็นราคาที่แพงจากเดิมมาก จากที่คู่สัญญาที่ผ่านมาจะได้ทั้งเรื่องร้านค้าและการดูแลห้องน้ำพร้อมจัดการดูแลเรื่องพัสดุ แต่สัญญาตัวใหม่ทางเจ้าหน้าที่ตัด 2 ส่วนนี้ออกไป ให้คู่สัญญาคนใหม่รับไปดูแล ซึ่งตนได้เปิดร้านขายอาหารในพื้นที่มา 10 กว่าปีไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ ซึ่งการขึ้นค่าเช่าแพงจนเกินเหตุ ทำหนังสือส่งขอต่อรองค่าเช่าให้ลดลงเหลือวันละ 4,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ก็ไม่ยินยอม

นางสุรางค์ ได้ระบุอีกว่า จากการขายอาหารมา 1 เดือนเศษ หลังจากทำสัญญาใหม่ ปรากฏว่า ตนต้องเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นกว่า 150,000 บาท เนื่องจากขาดทุนทุกวัน แต่ทางการรถไฟฯ มาเก็บรายวันจำเป็นต้องหยิบยืมกู้เงินนอกระบบ และเปียแชร์มาจ่าย จึงวิงวอนขอความเมตตาให้ทางการรถไฟฯ ลดค่าเช่าลงมาให้บ้าง เนื่องจากขณะนี้การค้าขายก็ไม่ดี ประกอบกับภายในบริเวณสถานีไม่ให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาจำหน่ายจึงส่งผลกระทบต่อการค้าขายอย่างมาก

ส่วนยอดการจำหน่ายอาหารบางวันขายได้วันละ 6,000 บาทเศษ และมีบางวันขายได้ประมาณ 12,000 บาท เมื่อหักลบรายจ่ายที่เป็นต้นทุนและหักค่าแรงลูกน้องแล้ว ตนต้องนำเงินนอกระบบมาชดเชยจ่ายรายวันให้แก่ทางการรถไฟฯ ซึ่งทุกวันนี้ตนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทีแรกตั้งใจจะไปยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด แต่มีคนบอกว่าเป็นไปได้ยากที่ทางศูนย์ดำรงธรรมจะช่วยเหลือได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของการรถไฟฯ ดังนั้น หากทางการรถไฟฯ ไม่ยินยอมลดค่าเช่าให้ ที่พึ่งสุดท้ายตนพร้อมพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องจำเป็นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เพื่อขอพึ่งพระบารมีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น