xs
xsm
sm
md
lg

จยย.บอมบ์ตลาดข้าง “ค่ายอิงคยุทธฯ” ฉากวินาศกรรมซ้ำๆ ในรอมฎอนเดือด!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

 
โดย... ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
 


.
พลันสิ้นเสียงระเบิดที่เกิดจากปฏิบัติการ “จยย.บอมบ์” ในตลาดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ค.2562
 .
2 ชีวิตคนบริสุทธิ์ก็สิ้นตามไปด้วย..!!
 .
คนหนึ่งคือ “สารีปะ เยาะแซ” คุณแม่ลูกสาม อายุ 35 ปี เธอเพิ่งขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเช่าที่เปิดเป็นร้านอาหารหน้าตลาดบ่อทองออกมาเพียงไม่กี่นาที แรงระเบิดมหาศาลก็อัดเข้าเต็มร่าง ผลักเธอกระเด็นไปชนอัดเข้ากับรถกระบะ เธอแน่นิ่งอยู่บนรถจักรยานยนต์
 .
หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์รับรู้ได้ทันทีว่า เธอต้องเสียชีวิตในวินาทีนั้น หลังสิ้นเสียงระเบิดพวกเขาพบร่างของเธอในสภาพที่ยังคงนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ แต่ลำตัวกลับพับลงไปด้านหลัง ในขณะที่ขายังอยู่ในท่าควบมอเตอร์ไซค์เหมือนเดิม
 .
นางสารีปะ เยาะแซ
.
“สารีปะ” ไม่ได้กลับไปพบหน้าลูกๆ ทั้ง 3 คนของเธออีกแล้ว ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าสามีและแม่ของเธออีกแล้ว พวกเขายังรอเธออยู่ที่บ้าน แต่สำหรับเธอไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้บอกลากัน
 .
ราวปีที่แล้ว “สารีปะ” กับครอบครัวเพิ่งย้ายเข้ามาเช่าบ้านที่ตลาดบ่อทอง ด้วยหวังจะเปิดร้านขายอาหารสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ลูกสาวของเธอพูดเพียงสั้นๆ หลังเสร็จสิ้นงานศพว่า
 .
“เสียใจมาก ก็เสียใจค่ะ แต่เราก็ต้องอดทนค่ะ”
 .
ด.ช.อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ
.
อีกคนหนึ่งคือ “อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ” เด็กหนุ่มอายุเพียง 14 ปี เขากลับมาบ้านในช่วงปิดเทอมจากการไปร่ำเรียนที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี วันนั้นเขานั่งอยู่ในรถกระบะที่ถูกดัดแปลงเป็นรถยก นั่งอยู่ข้างๆ พี่ชายที่เป็นคนขับรถยก ด้านหลังพี่ชายมีลูกพี่ลูกน้องอีกคนนั่งมาในรถกระบะด้วย
 .
“อัยดิลฟิตลี” เป็นคนเอ่ยปากขอติดตามพี่ชายไปทำงาน แต่เขาก็ไม่มีโอกาสกลับบ้านสู่อ้อมอกของครอบครัวพร้อมๆ กับพี่ชายและลูกพี่ลูกน้องอีกคน
 .
ผู้คนขวักไขว่ รถราจอดกันเต็มสองข้างทาง ยามเย็นเช่นนี้ในตลาดย่อมมีผู้คนมากมายเข้ามาจับจ่ายซื้ออาหารในช่วงเวลาก่อนละศีลอด รถยนต์ที่อัยดิลฟิตลีโดยสารมาค่อยๆ ขยับไปบนถนนสี่เลนหน้าตลาดบ่อทอง น่าจะเพียงเสี้ยววินาทีที่เสียงระเบิดดังกระหึ่มไปทั้งบริเวณ
 .

รถยกที่ ด.ช.อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ นั่ง
.
เหล็กเส้นตัดสั้นนับร้อยชิ้นก็พุ่งออกมาด้วยแรงผลักดันของดินระเบิด เหล็กเส้นถูกตัดจำนวนหนึ่งทะลุกระจกรถกระบะ แล้วเหล็กเส้นถูกตัดชิ้นหนึ่งได้กระเด็นมาเจาะเข้ากะโหลกเด็กชายวัย 14 ปี
 .
เขาล้มฟุบที่ตักพี่ชาย ลมหายใจแผ่วเบา แรกที่ล้มฟุบลงนั้นพี่ชายของเขายังคิดว่าน้องชายเพียงแค่ตกใจเสียงระเบิด แล้วก้มลงหลบ แต่เมื่อเลือดสีแดงฉานสดไหลออกมา จึงรู้ทันทีว่าน้องชายของเขาโดนสะเก็ดระเบิดให้เข้าแล้ว
 .
ร่างของ “อัยดิลฟิตลี” ที่แทบไม่รู้สึกตัวได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลด้วยวัยเพียง 14 ปี
 .
อัซลีนา กูโน พี่สาวของ “อัยดิลฟิตลี” ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่า “มันเร็วมาก เหมือนฝันไป พอตามไปที่โรงพยาบาลน้องเสียชีวิตแล้ว แพทย์พยายามช่วยกันปั้มหัวใจ แต่ชีพจรไม่กลับมา”
.
“แกเป็นเด็กเรียบร้อย ร่าเริง สดใส เฮฮา ช่วยงานบ้านทุกอย่าง ที่เสียใจมากคือ ไม่คิดว่าคนดีๆ จะไปแบบนี้ ตั้งความหวังกับแกว่าให้เป็นเสาหลักของครอบครัว ให้แกสานต่อกิจการของพ่อ” อัซลีนากล่าว
 .
ซากจักรยานยนต์บอมบ์
 
หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่คราวนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เรียกดูหลักฐานทั้งจากที่เจอในที่เกิดเหตุ ประจักษ์พยาน และกล้องวงจรปิด แล้วได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า
 .
ระเบิดลูกนี้กลุ่มคนร้ายจุดชนวนจากสาเหตุที่ต้องการล้างแค้นให้เพื่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญที่ อ.ยะหา จ.ยะลาก่อนหน้าในวันเดียวกันนั้น ซี่งพบว่าเป็นฝีมือของ “กลุ่มนายเมาลานา สาเมาะ และนายยูโซ๊ะ แมะตีเมาะ” ทั้งสองเป็นแกนนำระเบิดปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ โดยทั้งสองคนร่วมมือกันเพื่อตอบโต้กรณีที่ “นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ” เพื่อนผู้เป็นถึงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการของขบวนการบีอาร์เอ็นฯ ถูกวิสามัญเสียชีวิต
.
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์บอกว่า จากการไล่ตรวจสอบจากพยานหลักฐานในวงกว้าง ตั้งแต่พื้นที่ อ.หนองจิก และเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำแดง ซึ่งตรงกับรถจักรยายนต์บอมบ์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุระเบิดที่ตลาดบ่อทอง โดยพบภาพในกล้องวงจรปิดว่ามีผู้ขับขี่เพียงคนเดียว ใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า

 .
 

“ขับขี่มาทางเส้นทางสายนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ พอมาถึงเขตรอยต่อระหว่าง อ.โคกโพธิ์ กับ อ.หนองจิก จะมีรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน มีคนขับขี่ 1 คนเช่นกัน ขับออกมาจากซอยตามหลังรถคันก่อเหตุในระยะห่างประมาณ 2 เมตร จนกระทั่งขับผ่านค่ายทหาร ก่อนจะมาถึงตลาดบ่อทอง แล้วคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บอมบ์ได้เลี้ยวมาจอด ก่อนที่รถจักรยานยนต์อีกคันที่ตามมาขับเข้ามารับคนร้ายแล้วขับหลบหนีไป”
 .
ผู้การปัตตานียังเปิดเผยถึงผลการประชุมอีกว่า เราเชื่อว่าช่วงที่คนร้ายที่นำรถจักรยานยนต์บอมบ์มาจอดเป็นเวลาประมาณบ่ายสาม ไม่มีใครเอะใจสงสัยอะไร เพราะเป็นช่วงที่คนมาจับจ่ายซื้อของกันมาก และเชื่อว่า คนร้ายน่าจะนั่งรอจนถึงเวลาประมาณ 16.15 น. ทหารพรานจำนวน 4 นาย ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตลาดเดินทางมาถึง พอทั้ง 4 นายเดินมาถึงบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์บอมบ์ คนร้ายก็กดระเบิดทันที โดยไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์
 .
แล้วระเบิดมันก็ช่างทำงานตามที่ได้รับคำสั่งมาอย่างเที่ยงตรงเสียเหลือเกิน..!!

 .


นอกจาก “สารีปะ เยาะแซ” ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุกับ “อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ” ที่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแล้ว ยังมีชาวบ้านที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความแค้นของคนร้ายต้องมาบาดเจ็บไปด้วยอีกเกือบ 20 คน หนึ่งในนั้นคือ
 .
“ด.ช.ปุณณกรณ์  หัดดูหมัด” อายุเพียง 2 ปี 5 เดือน
.
วินาทีนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าตลาดบ่อทองที่อยู่ห่าง “ค่ายอิงคยุทธบริหาร” ไม่กี่มากน้อย อันถือเป็นสถานที่สำคัญระดับเป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ 46 ดูแลพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส และหน่วยทหารอีกหลายแห่ง ที่อยู่ใกล้เคียง อาทิ กองพลทหารราบที่ 15 ที่ตั้งขึ้นมาเป็นหน่วยรบหลักในการดูแลและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมทหารพรานที่ 43 รวมทั้งท่าอากาศยานทหารใน จ.ปัตตานี เป็นต้น
 .
หลายคนแทบไม่เชื่อว่า ตลาดที่อยู่ใกล้ค่ายทหารใหญ่ๆ เช่นนี้จะเปิดโอกาสให้ “กลุ่มโจรใต้” ก่อเหตุ จยย.บอมบ์เพื่อการแก้แค้นให้พวกเดียวกันได้รวดเร็วและง่ายดายถึงเพียงนี้?!
 .
แม้จะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าในช่วง 10 วันสุดท้ายในช่วงเดือนรอมฎอนของทุกปี เครือข่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนจะมีความพยายามก่อเหตุรุนแรงมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่อาจป้องกันได้ และแม้จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อคนของกลุ่มก่อการ้ายถูกวิสามัญ นั่นจะตามมาด้วยการตอบโต้ แต่ก็ไม่อาจจะป้องกันได้เช่นกัน
 .
ภายหลังเกิดเหตุ จยย.บอมบ์คร่า 2 ชีวิต มีผู้บาดเจ็บอีกเกือบ 20 ชีวิต และยังความเสียหายต่อทรัพย์สินพี่น้องประชาชนจำนวนมาก พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า ก็ได้ออกมาบอกผ่านเว็บไซต์ กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า (www.southpeace.go.th/th/News/explain/5973.html) ว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมกลุ่มของนายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และที่ อ.ยะหา จ.ยะลานั้น
 .
เป็นไปตามนโยบายของ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ ภ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มในการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อทำลายความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่าจะได้บุญมากขึ้น
 .
ใครเลยจะคาดคิดว่า ราวช่วงบ่ายโมงของวันที่ 27 พ.ค.2562 ที่เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการปิดล้อมแล้วได้ทำการวิสามัญนายอับดุลเลาะ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาระเบิดลูกโตที่ซุกมากับ จยย.บอมบ์ก็ถูกจุดชนวนถล่มตลาดบ่อทอง ตลาดที่อยู่ห่างค่ายอิงคยุทธบริหารและหน่วยงานทางการทหารอื่นๆ ไม่กี่มากน้อย
 .
ห้วงแห่งเดือนรอมฎอนปีนี้ สิ่งที่คาดว่าจะเกิด ก็เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พยายามกดดันให้ไม่เกิด ก็เกิดขึ้นแล้ว
 .
ปีหน้าและอีกหลายปีในห้วงแห่งเดือนรอมฎอนก็คงจะเกิดขึ้นแบบนี้อีก และจะต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ตกตายหรือได้รับบาดเจ็บโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไม่ว่าจะด้วย “ไฟแค้น” หรือ “ไฟอุดมการณ์” หรือไฟอะไรต่อมิอะไรก็ตาม.
 



กำลังโหลดความคิดเห็น