xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเริ่มแล้ว นำ “ไบโอแมทริกซ์” มาใช้ตรวจความถูกต้องอัตลักษณ์บุคคล ป้องกันคนร้ายข้ามชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยกระดับ ตม.ตรวจสอบความถูกต้องของบุคคล นำระบบ “ไบโอแมทริกซ์” มาใช้ตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ ติดตั้ง 170 จุด ทั่วประเทศ ใช้งบ 2,100 ล้านบาท มั่นใจลดปัญหาคนร้ายข้ามชาติได้อย่างแน่นอน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 พ.ค.) พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บังคับบัญชา สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานบริหารโครงการ Biometrics พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นทีมที่ปรึกษาโครงการฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือ และนาย Gunther Mull ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DERMALOG ซึ่งเป็นบริษัทรับติดตั้งระบบ Biometrics “ไบโอแมทริกซ์” ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการติดตั้ง และทดสอบระบบงาน Biometrics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต หลังมีการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้าดำเนินการติดตั้งเพื่อทดแทนระบบเดิมที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน

สำหรับระบบ “ไบโอแมทริกซ์” เป็นระบบที่ทำขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาข้อบกพร่องในการตรวจสอบของระบบเก่า ในเรื่องของการตรวจอัตลักษณ์บุคคลทางกายภาพ เช่น คนร้ายที่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าการตรวจสอบทำได้ยากขึ้น อาจจะมีคนเหล่านี้หลุดลอดเข้ามาได้ แต่ระบบ “ไบโอแมทริกซ์” จะเพิ่มในเรื่องของการตรวจสอบลายนิ้วมือเข้าไปด้วย ซึ่งลายนิ้วมือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย

การดำเนินโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณ จำนวน 2,100 ล้านบาท การติดตั้ง 170 จุด รวม 2,000 เครื่องทั่วประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีการติดตั้งที่สนามบินภูเก็ต ท่าเรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานสืบสวน เฉพาะสนามบินภูเก็ตจะมีการติดตั้ง จำนวน 76 ตัว ทั้งอาคารผู้โดยสารขาเข้า และขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งมีการดำเนินการมาตั้งแต่เดือด ก.ค.2560

ขณะนี้มีการดำเนินการไปแล้วประมาณ 70% ครบกำหนดในการดำเนินงานเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้มีการขยายระยะเวลาอีก 1 เดือน โดยจะครบกำหนดและเริ่มใช้งานได้ครบ 100% ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ยังไม่เสร็จก็จะต้องเสียค่าปรับวันละกว่า 4 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2562 ระบบจะสามารถพร้อมใช้งานได้เต็มรูปแบบทั่วประเทศ ณ จุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั่วประเทศ ด่านบก ด่านทางน้ำ ท่าอากาศยาน เพื่อเป็นการคัดกรองบุคคล ป้องกันการใช้หนังสือเดินทางปลอม การเปลี่ยนชื่อ และในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการตรวจคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย ให้เป็นมาตรฐานสากลกับประเทศอื่นทั่วโลก โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 5 ในอาเซียนที่นำระบบ Biometrics มาใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน





กำลังโหลดความคิดเห็น