สุราษฎร์ธานี - กำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย สนธิกำลังบูรณาการ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ป่าพรุบางรักษ์ ติดกับสนามบินเกาะสมุย!!..อึ่งถูกรุกไปกว่าร้อยไร่ แจ้งคนครอบครองพ้นพื้นที่ภายใน30 วัน ถ้าเฉยดำเนินคดี รื้อถอนทันที
วันนี้ ( 16 มี.ค.) นายศุภเกียรติ เพชรเศรษฐ์ ปลัดป้องกันอำเภอเกาะสมุย พร้อม ร.ต.สุรพล ศรีจุลโพธิ์ รอง.หน.ชป.รส.กกล.รส.มทบ.45 พื้นที่เกาะสมุย นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี สาขาอำเภอเกาะสมุย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บูรณาการ ลงพื้นที่ ทำการตรวจสอบ พื้นที่สาธารณะประโยชน์ ป่าพรุ และป่าโกงกาง บ้านบางรักษ์ มีพื้นที่ติดกับ วัดบางรักษ์ และ สนามบินสมุย หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุและ ป่าโกงกางขนาดใหญ่ จำนวนหลายร้อยไร่
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจสอบ พร้อม ทำการวัดรังวัด หลักเขตบริเวณป่าพรุและป่าโกงกาง พบว่าพื้นที่ ได้มีนายทุน และ ชาวบ้าน ทำการบุกรุกด้วยการ เข้าไปยึดถือครอบครองพร้อมนำขยะ และ ดินมาถมทับลำคลอง ป่าพรุ พร้อมทำการสร้างบ้าน สร้างกระท่อม เข้าไปอยู่อาศัย พร้อมทำการกั้นรั้วลวดหนาม ล้อมรอบ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จากพื้นที่หลายร้อยไร่ ถูกกลุ่มนายทุน และชาวบ้านเข้าไปยึดครอบครอง ไปกว่า 100 ไร่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรังวัด พร้อมตอกหมุดหลักเขตเอาไว้เพื่อรอเรียกผู้ที่ครอบครองนำเอกสารมาแสดงกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พรุบางรักษ์ พื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น จากการตรวจสอบหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง หรือ (น.ส.ล.) จำนวน 4 แปลง และขอออกหนังสือเพิ่มอีก 1 แปลง จากการตรวจสอบ พบว่า ในส่วนของการตรวจสอบเขตหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง พบในหลายจุดพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกชาวบ้านและนายทุนบุกรุก ซึ่งในส่วนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องจะทำการดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป
ขณะเดียวกัน พื้นที่ ที่มีเอกสาร น.ส.ล หรือ หนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 4 แปลง จำนวน 140 ไร่ สำหรับพื้นที่ ที่ถูกบุกรุก เป็นพื้นที่แนวขอบรอบๆ ป่าพรุ มีการปลูกสร้างบ้านอยู่หลายหลัง มีพื้นที่จำนวนมาก ที่ถูกรุกไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ตรวจสอยอย่าละเอียดอีกครั้ง
หลังจากตรวจสอบแล้ว ในขั้นตอนต่อไป ทางฝ่ายปกครอง และทางเทศบาล จะทำการดำเนินการกับกลุ่มผู้ที่บุกรุกอย่างเห็นได้ชัดในครั้งนี้ โดยจะดำเนินการ แจ้งให้กับกลุ่มผู้ที่บุกรุกออกจากพื้นที่ ภายใน 30 วัน และหลังจากนั้น หากกลุ่มผู้บุกรุก ยังเพิกเฉย ทางฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเกาะสมุย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ ( 16 มี.ค.) นายศุภเกียรติ เพชรเศรษฐ์ ปลัดป้องกันอำเภอเกาะสมุย พร้อม ร.ต.สุรพล ศรีจุลโพธิ์ รอง.หน.ชป.รส.กกล.รส.มทบ.45 พื้นที่เกาะสมุย นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี สาขาอำเภอเกาะสมุย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บูรณาการ ลงพื้นที่ ทำการตรวจสอบ พื้นที่สาธารณะประโยชน์ ป่าพรุ และป่าโกงกาง บ้านบางรักษ์ มีพื้นที่ติดกับ วัดบางรักษ์ และ สนามบินสมุย หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุและ ป่าโกงกางขนาดใหญ่ จำนวนหลายร้อยไร่
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจสอบ พร้อม ทำการวัดรังวัด หลักเขตบริเวณป่าพรุและป่าโกงกาง พบว่าพื้นที่ ได้มีนายทุน และ ชาวบ้าน ทำการบุกรุกด้วยการ เข้าไปยึดถือครอบครองพร้อมนำขยะ และ ดินมาถมทับลำคลอง ป่าพรุ พร้อมทำการสร้างบ้าน สร้างกระท่อม เข้าไปอยู่อาศัย พร้อมทำการกั้นรั้วลวดหนาม ล้อมรอบ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จากพื้นที่หลายร้อยไร่ ถูกกลุ่มนายทุน และชาวบ้านเข้าไปยึดครอบครอง ไปกว่า 100 ไร่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรังวัด พร้อมตอกหมุดหลักเขตเอาไว้เพื่อรอเรียกผู้ที่ครอบครองนำเอกสารมาแสดงกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พรุบางรักษ์ พื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น จากการตรวจสอบหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง หรือ (น.ส.ล.) จำนวน 4 แปลง และขอออกหนังสือเพิ่มอีก 1 แปลง จากการตรวจสอบ พบว่า ในส่วนของการตรวจสอบเขตหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง พบในหลายจุดพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกชาวบ้านและนายทุนบุกรุก ซึ่งในส่วนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องจะทำการดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป
ขณะเดียวกัน พื้นที่ ที่มีเอกสาร น.ส.ล หรือ หนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 4 แปลง จำนวน 140 ไร่ สำหรับพื้นที่ ที่ถูกบุกรุก เป็นพื้นที่แนวขอบรอบๆ ป่าพรุ มีการปลูกสร้างบ้านอยู่หลายหลัง มีพื้นที่จำนวนมาก ที่ถูกรุกไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ตรวจสอยอย่าละเอียดอีกครั้ง
หลังจากตรวจสอบแล้ว ในขั้นตอนต่อไป ทางฝ่ายปกครอง และทางเทศบาล จะทำการดำเนินการกับกลุ่มผู้ที่บุกรุกอย่างเห็นได้ชัดในครั้งนี้ โดยจะดำเนินการ แจ้งให้กับกลุ่มผู้ที่บุกรุกออกจากพื้นที่ ภายใน 30 วัน และหลังจากนั้น หากกลุ่มผู้บุกรุก ยังเพิกเฉย ทางฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเกาะสมุย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
