xs
xsm
sm
md
lg

เจาะสนาม ‘ตรัง’ แม้จะมี ส.ส.ได้แค่ 3 ตำแหน่ง แต่ก็ต้องถือเป็นเมืองหลวงของ “ประชาธิปัตย์” และกำลังจะเป็นบทพิสูจน์ชัดว่า “อดีตเจ้าอาวาส” ยังศักดิ์สิทธิ์อีกหรือไม่ เพราะเทียบชั้นคู่ชิงทั้ง 3 เขตน่าจะหืดขึ้นคอพอสมควร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

 
รายงาน… เกาะติดสนามเลือกตั้ง’62  /  โดย… เมธี  เมืองแก้ว
.
 .

.
“จ.ตรัง” ในทางการเมืองถูกมองว่าเป็นเหมือน “เมืองหลวง” ของ พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นฐานที่มั่นของ นายหัวชวน-ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค ผู้เคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรค และอดีต ส.ส.หลายสมัยที่ได้รับเลือกตั้งให้ไปเป็นถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายกระทรวงมาแล้ว
 
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ในสมัยนี้พื้นที่เลือกตั้งของ “เมืองหมูย่าง” จึงจัดได้ว่าร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมา เนื่องเพราะแชมป์เก่ามีโอกาสที่จะสูญเสียเก้าอี้ไปได้ ถึงแม้ในอดีตบางพื้นที่จะได้คะแนนสูงนับแสนคะแนนและเคยติดอันดับประเทศมาแล้วก็ตาม อันไปตามกระแสของผู้คนบางกลุ่มที่อยากเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ บ้าง และอยากให้บ้านเมืองเกิดการพัฒนามากกว่านี้ แต่ก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันเมื่อต้องเจอแม่ทัพอย่าง “นายหัวชวน” อดีตนายกฯ 2 สมัยและอดีตหัวหน้าพรรค 3 สมัยที่ครองพื้นที่มายาวนาน จึงต้องนับว่าทั้ง 3 เขตการเลือกตั้งของ จ.ตรัง ถือเป็นอีกสนามระดับ “ช้างชนช้าง” เลยทีเดียว
 

 
เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ตรัง สมัยล่าสุดนี้ สุกิจ อัถโถปกรณ์ สวมเสื้อฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครป้องกันแชมป์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เจ้าตัวจึงมากความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจจากคนตรังให้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาอีกสมัย แม้จะมีกระแสออกมาโจมตีว่าไม่มีผลงานบ้าง หรืออยากให้พรรคเปลี่ยนตัวผู้สมัครบ้าง แต่เมื่อมีการอธิบายทุกคนก็เกิดความเข้าใจและให้การสนับสนุนอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นแนวทางที่ ปชป.ยึดมั่น และทำเสมอมาทุกสมัยของการเลือกตั้ง ถึงแม้ครั้งนี้จะมีผู้ลงสมัครแข่งขันเป็นจำนวนมากมายเพียงใดก็ตาม
 
เขตเลือกตั้ง ส.ส.นี้ก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจอยู่หลายคนและอาจมีโอกาสเข้าวินได้เหมือนกัน นับตั้งแต่ พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่ง นิพันธ์ ศิริธร อดีตรองผู้ว่าฯ ตรัง และก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นทั้งปลัดจังหวัดตรัง และนายอำเภอเมืองตรัง ส่วน พรรคพลังท้องถิ่นไท ส่ง ชาลี กางอิ่ม อดีตนายกเทศมนตรีนครตรังหลายสมัย ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ที่ส่ง จิโรจน์ พีระเกียรติขจร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ผู้เคยนั่งเป็นผู้จัดการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการกำจัดขยะและบำบัดน้ำเสียอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(ภาคใต้) มาก่อน
 

 
ขณะที่ เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ตรัง ในสนามเลือกตั้ง ส.ส.หนนี้ยังคงมี สาทิตย์ วงศ์หนองเตย สวมเสื้อฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ ลงปกป้องแชมป์เหมือนเดิม ซึ่งเขาได้รับเลือกจากคนตรังให้เป็น ส.ส.มาแล้วถึง 5 สมัย และทั้งเคยนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้วด้วย แม้จะยังมีภาพเคยเป็น “แกนนำ กปปส.” และเจ้าตัวยอมรับว่าในช่วงแรกๆ ของการลงพื้นที่เที่ยวนี้ ความนิยมของพรรคอาจลดลงไปบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ว่างเว้นเลือกตั้ง ส.ส.มาหลายปี ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี รวมทั้งมีการปล่อยข่าวเชิงลบจากฝ่ายตรงข้าม แต่จากความผูกพันที่คนตรังมีต่อพรรคและตัวผู้สมัคร จึงยังมั่นใจว่าจะรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ อีกทั้ง จ.ตรังยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่อการได้เป็นรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย
 
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ตรังนี้ก็ต้องบอกว่า ปชป.คงเหนื่อยไม่น้อยทีเดียว เพราะมีคู่ต่อกรหลายคนจัดชั้นว่า “ไม่ธรรมดา” ทั้งนั้น โดยเฉพาะ พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ส่ง โชคดี คีรีกิ้น อดีต ส.อบจ.ผูกขาดถึง 5 สมัย รวมทั้งยังเคยนั่งตำแหน่งเป็นรองนายก อบจ.ตรัง และประธานสภา อบจ.ตรัง มาแล้วด้วย ฟาก พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ส่ง วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม แม้จะถือเป็นมือใหม่ทางการเมือง แต่มีภาพความเป็น “หมอใจบุญ” ที่ทำการรักษาผู้คนในสนนราคาที่ถูกแสนถูก แถมยังได้รับการสนับสนุนจาก ทวี สุระบาล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค อดีต ส.ส.ตรังหลายสมัย ผู้ที่ก่อนหน้านั้นก็เคยอยู่กับ ปชป. จึงต้องจัดว่ามีฐานเสียงหนาแน่นพร้อมที่จะสนับสนุนจำนวนมาก
 

 
สำหรับ เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ตรัง ในสนามเลือกตั้ง ส.ส.หนนี้ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส. 4 สมัยขอวางมือการเมือง แต่ได้ผลักดันทายาท สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ให้ได้สวมเสื้อฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ ลงสู้ศึกชิงตำแหน่ง ส.ส.แทน พร้อมชูจุดเด่นด้านการศึกษาที่จบทั้งเนติบัณฑิตไทยและปริญญาโทถึง 2 ใบจากประเทศอังกฤษ อีกทั้งก็ไม่ใช่มือใหม่ในทางการเมือง เพราะเคยนั่งเป็นเลขานุการนายก อบจ.ตรังมาแล้ว แถมยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม NEW DEM คนรุ่นใหม่ในอ้อมกอดของ ปชป.อีกด้วย ที่สำคัญก็คือได้แรงสนับสนุนจากตระกูลที่กว้างขวางและทำงานการเมืองทุกระดับบนแผ่นดินเมืองหมูย่างมาตลอด
 
ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ตรังนี้ก็มีคู่แข่งที่ต้องจับตามองอยู่หลายคน โดยเฉพาะ พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่ง ดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์ หลานแท้ๆ ของตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” และเคยทำงานการเมืองระดับชาติมาแล้ว ทั้งในฐานะผู้ช่วย ส.ส.และผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ส่วน พรรคประชาชาติ ได้ส่ง เนติวิทย์ ขาวดี อดีตปลัดอำเภอชื่อดังของ จ.ตรัง ที่เคยลงสมัครมาแล้วทั้ง ส.ว. และ ส.ส. แถมยังมีฐานเสียงหลักอยู่ในกลุ่มมุสลิม รวมทั้ง พรรคอนาคตใหม่ ที่ส่ง ยศวัฒน์ ธีรัตน์วัฒนากุล ความน่ากลัวของชื่อชั้นพรรคนี้และตัวตนผู้สมัครเองมีแค่ไหน พิสูจน์ได้จากที่เพิ่งผ่านพ้นการถุกกลุ่นแกล้งมาหมาดๆ จากการถูกจับตัวด้วยหมายศาลจังหวัดอื่นในคดีค้างเก่าที่เคลียร์จบไปตั้งนานแล้ว
 
อย่างไรก็ตาม สำหรับคอการเมืองต่างก็แนะให้ร่วมกันจับตาสนามเลือกตั้งของทั้ง 3 เขตของ จ.ตรังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่ใช่แค่เรื่องร้อนแรงหรือความมันหยดที่จะมีให้เห็นเท่านั้น แต่ยังจะเป็นการพิสูจน์ว่า “อดีตเจ้าอาวาส” ยังจะมากมนต์ขลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์จนสามารถเนรมิตตำแหน่ง ส.ส.ได้ทั้ง 3 เขตอีกหรือไม่ เพราะมีกระแสว่าอาจจะน่ามี “หลุด” มือให้เห็นได้ 
  


กำลังโหลดความคิดเห็น