xs
xsm
sm
md
lg

อย่างนี้ก็มีด้วย! “ปฏิรูปตำรวจ” ก่อนหรือหลังเลือกตั้งไม่สำคัญแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ผอ.ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม ม.หาดใหญ่ โพสต์ระบายความรู้สึกลงบนเฟซบุ๊ก โอดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจโรงพักหาดใหญ่ ที่พยายามบ่ายเบี่ยง และไม่ยอมให้ลงบันทึกประจำวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญณรงค์ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้โพสต์ระบายความรู้สึกลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวในชื่อ “Channarong Thiangtham” เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ถึงความน้อยใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจโรงพักหาดใหญ่ โดยระบุว่า...

จดหมายเปิดผนึกถึงโรงพักหาดใหญ่

ผมไม่ได้อยากที่จะเดินขึ้นโรงพักหรอกครับ แต่วันนี้มีเหตุจำเป็น เพราะญาติมีเรื่องที่ประสงค์จะเข้าแจ้งความ หรือไม่ก็ลงบันทึกประจำวัน ด้วยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการยืมทรัพย์สินบางอย่างที่ต้องใช้ในการทำมาหาเลี้ยงชีพไป แล้วคนยืมนั้นเบี้ยวไม่ยอมเอาของสิ่งนั้นคืนกลับมาให้ อ้างว่าใช้ทำธุระของตนยังไม่แล้วเสร็จ แถมมีทีท่าว่าจะยึดเอาไว้โดยใช้ความมีพวกพ้องมากพูดจาข่มขู่ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น

เรื่องราวมันนิดเดียว และเขาเดินเข้ามาโรงพักด้วยความเดือดร้อน และมีความทุกข์ แต่กลับได้ความเลาๆ หลังจากได้คุยคร่าวๆ กับตำรวจบางท่านในห้องที่รับแจ้งความว่า กรณีดังกล่าวนี้โรงพักไม่รับแจ้งความนะ อันนี้ผมพอจะเข้าใจได้ ว่ามันเข้าข่ายเป็นคดีแพ่ง คงจะต้องไปฟ้องศาลเอา แต่ญาติผมประสงค์ที่จะลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ในเบื้องต้นเท่านั้น

เขาเข้ามาถึงห้องรับแจ้งความตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมงเย็น ได้ความว่า ร้อยเวรออกไปธุระข้างนอกให้นั่งรอก่อน ระหว่างที่นั่งรอ เขาได้โทร.มาร้องขอให้ผมช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย เผื่อว่าจะได้ช่วยฟังช่วยสื่อสารบางสิ่งบางประการ ในเรื่องเขาอาจจะไม่แจ่มชัดในข้อกฎหมาย ผมยินดีจะมาช่วยฟัง จึงรีบบึ่งเข้าไปโรงพักตั้งแต่ยังไม่ถึง 18.00 น. ปรากฏว่าต้องมานั่งรอร้อยเวรด้วยกันทั้งคู่

เวลาผ่านไปนานพอสมควร ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่มัน 18.08 น. แล้ว เลย 6 โมงเย็นไปหลายนาที ร้อยเวรดังกล่าวก็ไม่เห็นมา และแล้วก็มีร้อยเวรอีกคนมารับช่วงเวรต่อจากคนก่อน ผมถามว่านี่เราจะขอลงบันทึกประจำวันได้เลยไหม หันดูรอบๆ ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่ามีใครรอคิวจะแจ้งความอะไร มีแต่เราเท่านั้นที่นั่งรออยู่ ปรากฏว่าร้อยเวรท่านนี้ พร้อมทั้งนายตำรวจอีกคนที่บอกให้เรารอ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องรอร้อยเวรคนที่ทำงานในกะก่อน 18.00 น. เพราะพวกเรานั้นเข้ามาถึงที่รับแจ้งความก่อน 6 โมงเย็น

ผมถึงกับร้อง อ้าว.. แล้วแจ้งกับร้อยเวรที่เข้ามารับเวรใหม่นี่ไม่ได้หรือ ท่านมารับเวรรอบหลัง 18.00 น. ก็จริง แล้วก็เห็นว่าท่านยังนั่งว่างอยู่ ผมลุกขึ้นถามด้วยเสียงอันดัง ว่าแล้วนี่ท่านนั่งทำอะไร ก็เห็นท่านนั่งว่างอยู่มิใช่หรือ ทำไมถึงลงบันทึกประจำวันให้ไม่ได้ ร้อยเวรท่านนั้นก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า พวกเราเข้าถึงโรงพักก่อนเวลา 18.00 น. ต้องแจ้งกับร้อยเวรคนที่อยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาทำธุระอยู่ข้างนอกให้รอก่อน ร้อยเวรยังยืนยันหลักการเดิมต่อ ผมเลยบอกว่า งั้นผมจะเดินออกไปจากห้องนี้ แล้วให้ถือว่าผมกลับนะ เดี๋ยวผมจะเดินเข้ามาใหม่ อย่างนี้จะถือว่าผมเข้ามาถึงโรงพักในช่วงของร้อยเวรหลังเวลา 18.00 น. ได้หรือไม่ ตำรวจทั้งสองนายยังยืนยันว่าไม่ได้ ยังถือว่าเรามาก่อน 18.00 น. ต้องรอร้อยเวรคนก่อนเท่านั้น

ผมชักอารมณ์ขึ้นล่ะทีนี้ เสียงก็เลยดังขึ้นตามดีกรี พูดให้ตำรวจทุกนายในห้องนั้นได้ยินว่า ใช่ครับ ถ้าผมได้มาแจ้งอะไรไว้กับร้อยเวรคนที่อยู่เวรช่วงก่อน 18.00 น. แล้วท่านติดธุระด่วนฉุกเฉินต้องรีบออกไป โดยมารยาทผมควรจะรอร้อยเวรท่านนั้นกลับมาเพื่อสานเรื่องราวต่อใช่ไหมครับ อันนี้ผมเข้าใจดี แต่นี่ตั้งแต่เราเข้ามานั่งแล้วรอ ตำรวจคนนี้บอกให้รอตำรวจคนนั้น ตำรวจคนนั้นบอกให้รอตำรวจคนโน้น ในขณะที่เรายังไม่ได้เจรจาเรื่องราวใดๆ กับใครเลย นี่มันยังไงกัน ผมถามว่า แล้วผมต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ คุณร้อยเวรที่มารับช่วงต่อหลัง 18.00 น. ท่านทำให้ไม่ได้หรืออย่างไร ผมมองหน้าท่านร้อยเวรแล้วถามว่า นี่ท่านก็ยังนั่งว่างอยู่ไม่ใช่หรือ ท่านทำงานแบบนี้มันไม่ถูกนะ..!!

ปรากฏท่านเงียบไม่มีคำพูดโต้ตอบ แล้วจ้องตาผมเขม็ง ส่วนผมน่ะหรือไม่มีทางหลบสายตาท่านแน่ๆ ถ้าข้าราชการทำงานกันแบบนี้ก็แย่นะ พอรูปการมันเป็นเช่นนี้ ญาติผมเอ่ยชวนว่า งั้นเรากลับเถอะ เรามาผิดที่ ไม่ต้องแจ้งต้องลงบันทึกอะไรแล้ว สุดท้ายผมก็เห็นว่าในเมื่อร้อยเวรยืนยันขันแข็งเช่นนั้น ก็ได้เราจะกลับ แต่ก่อนจะหันหลังกลับ ผมเดินเข้าไปหน้าโต๊ะท่านร้อยเวร แล้วถามประโยคสุดท้าย "ท่านชื่ออะไรครับ" ได้คำตอบจากลูกผู้ชายว่า "ผมชื่อเสรี" ผมไม่ลืมที่จะกล่าวคำ..ขอบคุณ แล้วก็กลับออกมาโดยไม่ได้ลงบันทึกประจำวันอะไร

ระหว่างเดินไปที่รถ นึกในใจว่า นี่ทุกโรงพักมีกติกาแบบนี้เหมือนกันหมดล่ะหรือพลางนึกต่อไปว่า ท่านผู้กำกับ รองผู้กำกับ ท่านทราบว่ามีกติกาแบบนี้หรือไม่ ท่านอาจทราบหรืออาจจะไม่ทราบก็ตามแต่ แต่ท่านควรจะรู้เอาไว้บ้าง ว่าลูกน้องของท่านปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ แล้วประชาชนเขารู้สึกอย่างไร พลางคิดไพล่ไปถึง แล้วโรงพักทั่วประเทศเล่า เขาเป็นแบบนี้ด้วยหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด ก็ช่างน่าสงสารประชาชนอย่างเหลือเกิน
 



กำลังโหลดความคิดเห็น