ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนรู้จักเผยมือโพสต์ภาพเอาปืนจ่อหัวลักษณะจะฆ่าตัวตาย เป็นคนสนุกสนาน แต่จริงจังกับชีวิต คาดมีปัญหาเรื่องธุรกิจ มักจะบ่นให้ฟังบ่อยครั้งทำงานเบิกเงินไม่ได้ตามเป้า ขณะตำรวจคุมตัวตรวจฉี่พบสีม่วง
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ไลฟ์สดลักษณะเอาปืนจ่อหัวคล้ายจะฆ่าตัวตาย จนมีการแชร์ภาพ และข้อความที่ชายคนดังกล่าวโพสต์ไว้จำนวนมาก รวมทั้งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในลักษณะการให้กำลังใจ เตือนสติ และแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ สุดท้ายทางเจ้าของโพสต์ได้ลบข้อความออกจากระบบในเวลาต่อมาหลังโพสต์ไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง
จากการสอบถามคนรู้จักผู้โพสต์รายดังกล่าว ทราบว่า ผู้โพสต์เป็นเจ้าของบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์ ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งปกติคนโพสต์จะเป็นสนุกสนาน เฮฮา แต่เป็นคนที่จริงจังกับชีวิต ที่ผ่านมา มักจะดื่มเหล้าทุกวันเนื่องจากเครียดเรื่องธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องของการเบิกจ่ายเงิน ทำงานเสร็จเบิกเงินไม่ได้ตามเป้าบ้าง ทำให้มีปัญหาและมักจะบ่นให้ฟังเป็นประจำ
ขณะที่วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งได้เชิญผู้โพสต์มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังลงตรวจสอบที่บริษัทซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.รัษฎา พบผู้โพสต์อยู่ในห้องพัก ทราบชื่อ คือ นายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 42 ปี และจากการตรวจสอบห้องพักพบปืนบีบีกัน จำนวน 2 กระบอก อยู่ในตู้เซฟ จึงเชิญตัวมาที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดเพื่อสอบปากคำ และตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดหรือไม่
ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำ นายหนึ่ง ยอมรับว่า ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความดังกล่าวจริง เนื่องจากเครียดจากปัญหาเรื่องการเงิน เรื่องงานและครอบครัว จึงทำให้เกิดความเครียดและได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพถ่ายใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะตนเอง จากนั้นได้กินยาเข้าไปทำให้นอนหลับ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง และหลังจากที่เชิญตัวมาสอบสวน ขณะนี้นายหนึ่ง อยู่ในอาการที่ดีขึ้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดคุยให้สงบสติอารมณ์ ซึ่งนายหนึ่ง เองได้กล่าวว่ารู้สึกผิดและฝากขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการกระทำความผิดนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านไม่พบอาวุธปืน ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงปืนบีบีกัน 2 กระบอก ซึ่งไม่เข้าข่ายความผิด แต่จากการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายโดยการตรวจปัสสาวะของ นายหนึ่ง ปรากฏว่า พบสารเสพติดในร่างกาย สอบถามนายหนึ่ง ให้การยอมรับว่า เสพยาเสพติดจริงและสมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 108/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การนำผู้ต้องสงสัยเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู จึงได้นำตัว นายหนึ่ง ส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอฝากขอบคุณไปยังพี่น้องประชาชนทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ช่วยกันแชร์โพสต์และให้ข้อมูล ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว อนาคตหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็ขอให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุสลดขึ้นไม่มากก็น้อย
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ไลฟ์สดลักษณะเอาปืนจ่อหัวคล้ายจะฆ่าตัวตาย จนมีการแชร์ภาพ และข้อความที่ชายคนดังกล่าวโพสต์ไว้จำนวนมาก รวมทั้งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในลักษณะการให้กำลังใจ เตือนสติ และแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ สุดท้ายทางเจ้าของโพสต์ได้ลบข้อความออกจากระบบในเวลาต่อมาหลังโพสต์ไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง
จากการสอบถามคนรู้จักผู้โพสต์รายดังกล่าว ทราบว่า ผู้โพสต์เป็นเจ้าของบริษัทรับทำเฟอร์นิเจอร์ ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งปกติคนโพสต์จะเป็นสนุกสนาน เฮฮา แต่เป็นคนที่จริงจังกับชีวิต ที่ผ่านมา มักจะดื่มเหล้าทุกวันเนื่องจากเครียดเรื่องธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องของการเบิกจ่ายเงิน ทำงานเสร็จเบิกเงินไม่ได้ตามเป้าบ้าง ทำให้มีปัญหาและมักจะบ่นให้ฟังเป็นประจำ
ขณะที่วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งได้เชิญผู้โพสต์มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังลงตรวจสอบที่บริษัทซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.รัษฎา พบผู้โพสต์อยู่ในห้องพัก ทราบชื่อ คือ นายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 42 ปี และจากการตรวจสอบห้องพักพบปืนบีบีกัน จำนวน 2 กระบอก อยู่ในตู้เซฟ จึงเชิญตัวมาที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดเพื่อสอบปากคำ และตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดหรือไม่
ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำ นายหนึ่ง ยอมรับว่า ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความดังกล่าวจริง เนื่องจากเครียดจากปัญหาเรื่องการเงิน เรื่องงานและครอบครัว จึงทำให้เกิดความเครียดและได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพถ่ายใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะตนเอง จากนั้นได้กินยาเข้าไปทำให้นอนหลับ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง และหลังจากที่เชิญตัวมาสอบสวน ขณะนี้นายหนึ่ง อยู่ในอาการที่ดีขึ้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดคุยให้สงบสติอารมณ์ ซึ่งนายหนึ่ง เองได้กล่าวว่ารู้สึกผิดและฝากขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการกระทำความผิดนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านไม่พบอาวุธปืน ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงปืนบีบีกัน 2 กระบอก ซึ่งไม่เข้าข่ายความผิด แต่จากการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายโดยการตรวจปัสสาวะของ นายหนึ่ง ปรากฏว่า พบสารเสพติดในร่างกาย สอบถามนายหนึ่ง ให้การยอมรับว่า เสพยาเสพติดจริงและสมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 108/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การนำผู้ต้องสงสัยเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู จึงได้นำตัว นายหนึ่ง ส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอฝากขอบคุณไปยังพี่น้องประชาชนทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ช่วยกันแชร์โพสต์และให้ข้อมูล ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว อนาคตหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็ขอให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุสลดขึ้นไม่มากก็น้อย
