xs
xsm
sm
md
lg

เดือดร้อนหนักหญิงไทยวัย 53 ปี ไร้บัตรประชาชน วอนผู้ว่าฯ ช่วยเหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สุราษฎร์ธานี - พบหญิงไทยอายุ 53 ปี ไม่มีบัตรประชาชน ต้องทนทุกข์อยู่อย่างหวาดกลัวจะถูกจับว่าเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง วอนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หาทางช่วยเหลือ

นางแมว อายุ 53 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 123/293 บ้านซอยเขาวง ม.16 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นคนไทย ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 53 ปี แต่ไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ ต้องทนทุกข์มาตลอดทั้งชีวิต ไม่กล้าที่จะออกไปจากบ้านหรือเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวกลัวจะถูกเจ้าหน้าที่จับและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าว จะไปไหนต้องให้ลูกๆพาไปเลยต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ หวั่นพลัดพรากจากครอบครัว

นางแมว ยังได้กล่าวต่อไปว่า พ่อกับแม่พาตนเร่ร่อนไปรับจ้างทำงานในจังหวัดอุตรดิตถ์ มีความลำบากมาก พอตนอายุได้ 9 ขวบ ได้พบกับขอทานเร่ร่อนที่สถานีรถไฟจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เข้ามาชักชวนตนให้มาอยู่ด้วยโดยระบุว่ามาจูงคนตาบอดไปขอทานได้เงินดี ถึงลำบากหน่อยแต่ก็มีเงินใช้ตนจึงได้หนีออกมาจากบ้านมากับขอทาน ขอทานคนดังกล่าวก็ได้พาตนเร่ร่อนขอทานจากภาคเหนือลงมาสู่ภาคใต้ จนมาเดินขอทานอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดระนอง

แต่พบว่าถูกเอารัดเอาเปรียบและโกงเงินจึงได้หลบหนีมาของานทำที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งในจังหวัดระนอง ต่อมา ตนอายุ 15 ได้พบกับนายสงบ บุญตรี สามีที่เป็นทหารเกณฑ์ จึงได้คบกันมา เมื่อสามีปลดประจำการก็ได้พาตนมาอยู่อาศัยที่บ้านพ่อแม่ ของสามี ที่ตัวอำเภอดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี สามีได้ทำงานเป็นลูกจ้างเรือประมงอยู่ประมาณ 5 ปี ตนก็รับจ้างอยู่บนแพปลา ต่อมา พ่อสามีได้ขายที่ดินที่อำเภอดอนสัก และมาซื้อที่ดินทำสวนอยู่ในซอยบ้านเขาวง หมู่ที่ 16 ต.ประสงค์ และแบ่งที่ดินให้ลูกๆ คนละประมาณ 3 ไร่ได้ทำกิน สามีจึงได้พากันมาทำสวนอยู่ในพื้นที่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จนมาถึงปัจจุบัน

จากอดีตจนมาถึงปัจจุบันตนไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ทั้งที่เป็นคนไทยทั้งเชื้อชาติและสัญชาติไทย แต่ไม่มีใครยืนยันรับรองประวัติได้ เนื่องจากตนกลับไปติดตามหาพ่อแม่หรือพี่ๆ น้องๆ ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ทางผู้ใหญ่บ้านได้ว่าพ่อกับแม่ได้ย้ายไปทำงานที่อื่น และไม่ได้แจ้งเกิดตนที่นี่ พร้อมบอกว่าตนเกิดมาจากที่อื่น พ่อแม่พาตนมารับจ้างทำงานในหมู่บ้านและได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ถึงแม้ตนเติบโตที่หมู่บ้านนี้จริง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันรับรองได้ ตนจึงเดินทางกลับมาอย่างหมดหวัง

ต่อมา ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16 ต.ประสงค์ พยายามค้นหาประวัติของตนเพื่อจะทำบัตรประชาชนให้แต่ไม่พบ จึงไม่ได้ทำบัตรประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้ตนที่มีอายุ 53 ปี มีสามีและลูก 3 คน แต่ไม่บัตรประชาชน จึงไม่มีสิทธิทุกอย่างที่รัฐสนับสนุน ซึ่งต่อมา ทางพี่สาวสามีและผู้ใหญ่บ้านได้พาตนเข้าพบ พระอาจารย์ชลธาร หัวหน้าสำนักสงฆ์บ้านป่าไร่ยาว เพื่อให้หาทางช่วยเหลือในการทำบัตรประชาชน

ซึ่งตอนนี้ตนมีความหวังว่าสักวันจะมีบัตรประชาชนเหมือนคนไทยทั่วไป จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในความหวาดกลัวว่าจะถูกจับกุมและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวจนต้องพลัดพรากจากครอบครัว ดังนั้น จึงวิงวอนผ่านสื่อขอให้ทาง นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หาทางช่วยเหลือให้ได้ทำบัตรประชาชนเหมือนกับคนไทยทั่วไปจะได้พ้นจากความทุกข์ความหวาดกลัวที่จะถูกยัดเยียดเป็นคนต่างด้าวก่อนชีวิตจะหาไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น