กระบี่ - ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก นกนางแอ่นหลายหมื่นตัวยึดสายไฟฟ้ากลางสี่แยกอ่าวลึกเหนือ หลับนอน ถ่ายมูลเรี่ยราด ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ทำชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน เดือดร้อนรำคาญมานานกว่า 1 ปี
วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนกนางแอ่นจำนวนหลายหมื่นตัวอพยพยึดสายไฟฟ้า สายสัญญาณสื่อสาร บริเวณสี่แยกอ่าวลึกเหนือ ม.2 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นย่านชุมชน และย่านการค้าเป็นที่อาศัยยามค่ำคืน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบมูลนกจำนวนมากเกลื่อนพื้นถนน และตามสายไฟ สายสัญญาณ ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
นางดุษนี เสริมศิลป์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว กล่าวว่า สำหรับนกนางแอ่นชนิดนี้ ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่านกนางแอ่นดิน โดยในช่วงกลางวันจะออกไปหากินตามป่าตามเขา และในช่วงค่ำมืดก็จะบินกลับมานอนตามสายไฟฟ้าทั้งสายไฟแรงต่ำ และสายไฟแรงสูงตลอดแนวระยะทางประมาณ 100 เมตร ของทุกคืน และจะบินออกไปหากินตั้งแต่ 5 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เป็นอย่างนี้นานกว่า 1 ปีแล้ว และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่ชินตาและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมาตรงสี่แยกดังกล่าว จนปัจจุบันกลายเป็นแลนมาร์กจุดชมนกแห่งใหม่ของอำเภออ่าวลึกเลยทีเดียว
แต่ด้วยจำนวนนกที่มากนับหมื่นตัว ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งเสียงร้อง กลิ่น มูล และตัวไรขนนก ร่วงหล่นลงมาบนหลังคาบ้าน ตามริมถนน ป้ายสัญญาณไฟจราจร โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตก และแดดออกจะมีกลิ่นฉุนเหม็นอับเหมือนแก๊ส แดดออกขี้นกแห้งจะกลายเป็นฝุ่นฟุ้งกระจาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ และส่งผลต่อสภาพจิตใจชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ต้องกังวลคอยเคลื่อนย้ายสิ่งของหนีขี้นก รถก็จอดไม่ได้ นอกจากนี้ ชาวบ้านต่างกังวลว่านกฝูงดังกล่าวจะเป็นพาหะนำเชื้อโรค ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านบางคนเริ่มได้รับผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว แม้แต่ละวันชาวบ้านพยายามหาวิธีขับไล่ ทั้งเคาะหลังคาให้เกิดเสียงดัง จุดประทัด แต่ฝูงนกก็ไม่ได้อพยพหนีแต่อย่างใด จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางให้การช่วยเหลือ
ด้าน นางณัฐรินทร์ วุฒิปรีชาสิทธิ์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกราย กล่าวว่า ตนเปิดร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากร้านตั้งอยู่ใต้จุดที่นกอาศัย ทุกเย็นเมื่อฝูงนกบินกลับกันมา ท้องฟ้าจะมืดดำไปด้วยนก ตนจะต้องนำไม้เคาะกับสังกะสีเพื่อให้เกิดเสียง เพื่อไล่นกแต่ก็ไม่เป็นผล ขณะเดียวกัน คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน เริ่มป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจแล้ว ต้องไปหาหมออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่สามารถย้ายร้านหนีได้ เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้วแต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ผู้สื่อข่ายรายงานว่า สำหรับนกนางแอ่นชนิดนี้ ทำรังด้วยดิน จึงไม่เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน ต่างกับนกนางแอ่นทะเล ที่ทำรังด้วยน้ำลาย รังนกกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท ทำให้เป็นที่ต้องการ จนมีคนสร้างตึกให้อยู่ เพื่อเก็บรังขายและไม่มีคนรังเกียจ มีแต่อยากให้อยู่ด้วย
วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนกนางแอ่นจำนวนหลายหมื่นตัวอพยพยึดสายไฟฟ้า สายสัญญาณสื่อสาร บริเวณสี่แยกอ่าวลึกเหนือ ม.2 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นย่านชุมชน และย่านการค้าเป็นที่อาศัยยามค่ำคืน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบมูลนกจำนวนมากเกลื่อนพื้นถนน และตามสายไฟ สายสัญญาณ ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
นางดุษนี เสริมศิลป์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว กล่าวว่า สำหรับนกนางแอ่นชนิดนี้ ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่านกนางแอ่นดิน โดยในช่วงกลางวันจะออกไปหากินตามป่าตามเขา และในช่วงค่ำมืดก็จะบินกลับมานอนตามสายไฟฟ้าทั้งสายไฟแรงต่ำ และสายไฟแรงสูงตลอดแนวระยะทางประมาณ 100 เมตร ของทุกคืน และจะบินออกไปหากินตั้งแต่ 5 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เป็นอย่างนี้นานกว่า 1 ปีแล้ว และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่ชินตาและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมาตรงสี่แยกดังกล่าว จนปัจจุบันกลายเป็นแลนมาร์กจุดชมนกแห่งใหม่ของอำเภออ่าวลึกเลยทีเดียว
แต่ด้วยจำนวนนกที่มากนับหมื่นตัว ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งเสียงร้อง กลิ่น มูล และตัวไรขนนก ร่วงหล่นลงมาบนหลังคาบ้าน ตามริมถนน ป้ายสัญญาณไฟจราจร โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตก และแดดออกจะมีกลิ่นฉุนเหม็นอับเหมือนแก๊ส แดดออกขี้นกแห้งจะกลายเป็นฝุ่นฟุ้งกระจาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ และส่งผลต่อสภาพจิตใจชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ต้องกังวลคอยเคลื่อนย้ายสิ่งของหนีขี้นก รถก็จอดไม่ได้ นอกจากนี้ ชาวบ้านต่างกังวลว่านกฝูงดังกล่าวจะเป็นพาหะนำเชื้อโรค ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านบางคนเริ่มได้รับผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว แม้แต่ละวันชาวบ้านพยายามหาวิธีขับไล่ ทั้งเคาะหลังคาให้เกิดเสียงดัง จุดประทัด แต่ฝูงนกก็ไม่ได้อพยพหนีแต่อย่างใด จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางให้การช่วยเหลือ
ด้าน นางณัฐรินทร์ วุฒิปรีชาสิทธิ์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกราย กล่าวว่า ตนเปิดร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากร้านตั้งอยู่ใต้จุดที่นกอาศัย ทุกเย็นเมื่อฝูงนกบินกลับกันมา ท้องฟ้าจะมืดดำไปด้วยนก ตนจะต้องนำไม้เคาะกับสังกะสีเพื่อให้เกิดเสียง เพื่อไล่นกแต่ก็ไม่เป็นผล ขณะเดียวกัน คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน เริ่มป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจแล้ว ต้องไปหาหมออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่สามารถย้ายร้านหนีได้ เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้วแต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ผู้สื่อข่ายรายงานว่า สำหรับนกนางแอ่นชนิดนี้ ทำรังด้วยดิน จึงไม่เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน ต่างกับนกนางแอ่นทะเล ที่ทำรังด้วยน้ำลาย รังนกกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท ทำให้เป็นที่ต้องการ จนมีคนสร้างตึกให้อยู่ เพื่อเก็บรังขายและไม่มีคนรังเกียจ มีแต่อยากให้อยู่ด้วย