ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จังหวัดสงขลา ต้องเผชิญกับสภาพอากาศปิด และฝนตกคลื่นลมแรงมากขึ้น เนื่องจากอยู่ในทิศทางที่พายุโซนร้อน “ปาบึก” เคลื่อนผ่าน ชาวบ้านที่อยู่ติดริมชายฝั่งอ่าวไทยต่างเร่งหาทางป้องกัน ทั้งการใช้สแลน และกระสอบทรายมาสร้างเป็นแนวกั้นกันคลื่นลม
ความคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ที่ จ.สงขลา ขณะนี้เริ่มเผชิญกับสภาพอากาศปิด มีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมในทะเลก็ยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากแนวทิศทางของพายุลูกนี้ที่เคลื่อนผ่าน
ทำให้ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดชายทะเลตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทยของ จ.สงขลา ต้องเร่งหาทางป้องกันผลกระทบจากคลื่นลมแรง หรือภาวะน้ำทะเลหนุนเข้าท่วม เช่น ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 บ้านม่วงงาม ขณะนี้ได้นำทั้งผ้าสแลนมากั้น และกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกันคลื่นลมที่อาจจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน
เช่นครอบครัวของ นางธิดารัตน์ วสุรังสฤษฏ์ อายุ 39 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดริมชายหาดได้ช่วยกันนำสแลนมากั้นเพื่อกันลมกระโชกแรง รวมทั้งวางแนวกระสอบสวนทั้งภายใน และภายนอกตัวบ้าน เพื่อเตรียมรับมือคลื่นที่อาจจะพัดเข้าถล่ม
นางธิดารัตน์ กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ยังไม่ได้นอน เพราะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ของพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด เพราะค่อนข้างน่ากลัว และเป็นพายุลูกที่ 2 ในชีวิตที่ต้องเผชิญ หลังผ่านพ้นประสบการณ์พายุเกย์พัดถล่มแหลมตะลุมพุก ซึ่งชายฝั่ง จ.สงขลา ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และจำเป็นต้องหาวิธีการป้องกันบ้านเรือนเท่าที่พอจะทำได้ หากสถานการณ์รุนแรงก็พร้อมที่จะอพยพทันที
ในขณะที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีรายงานว่า ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติทุกเที่ยวบิน
และจากการออกสำรวจพื้นที่ชายทะเลตลอดแนวชายฝั่งของ จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้คลื่นลมเริ่มมีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ชายทะเล บางจุดซึ่งเคยถูกคลื่นซัดเสียหายซ้ำซากทุกครั้ง
เช่นที่บริเวณถนนริมหาดแก้วจุลดิศ ใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา ขณะนี้ได้ถูกคลื่นซัดซ้ำรอยเดิมเสียหายขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และห้ามรถวิ่งผ่านแล้ว พร้อมทั้งมีการติดธงแดงตลอดแนวชายหาดเป็นจุดอันตราย ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด
