xs
xsm
sm
md
lg

“รัฐ” ตั้งธงสร้างแน่! เล่าเรื่อง “เขื่อนวังหีบ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ประเด็นร้อนที่ยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องกับโครงการ “เขื่อนวังหีบ” ที่ทางกรมชลประทาน พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ในพื้นที่ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านได้จัดเวทีปกป้องสิทธิชุมชน และผืนป่าโบราณ หยุดเขื่อนวังหีบ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “รังสิต ทองสมัคร์” ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้า และความเคลื่อนไหวจากทางผู้มีอำนาจในพื้นที่ โดยระบุว่า...

เล่าเรื่องเขื่อนวังหีบ

เช้าวันจันทร์ ขณะขับรถออกจากบ้านในตัวเมืองนครจะไปทำงานที่ท่าศาลา ได้รับการติดต่อจากคนใกล้ชิดท่านผู้ว่าฯ ว่า ท่านผู้ว่าฯ อยากทานกาแฟกับหมอ

พอรู้ว่าวัตถุประสงค์เป็นเรื่องเขื่อนวังหีบ ผมก็ตอบตกลง

ท่านขอนัดตอนเก้าโมง ผมขอเลื่อนออกไปเป็นสิบเอ็ดโมง เพราะยังต้องมีภาระคนไข้ที่นัดไว้หลายคนโดยพยายามโทรชวนผู้ที่เกี่ยวข้องเท่าที่นึกได้ในตอนนั้น สรุปว่าการนัดหมายแบบฉุกละหุก ก็พอนัดหมายผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความหวังดีต่อบ้านเมืองเป็นที่ตั้งได้รวม 5 ท่าน

พี่บุญเสริม แก้วพรหม ผู้ที่ทำงานกันมานานหลายสิบปี เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในหลายๆ เรื่อง ที่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องในบ้านเมือง เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะมาลงหลักปักฐานที่ท่าศาลา และกรณีเชฟรอน

พี่เงาศิลป์ พี่ที่ผมเคารพ ผู้ติดตามกรณีวังหีบมาตั้งแต่ต้น เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องป่าชุมชนที่ดีมากอีกท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก

น้อง อ.ประเสริฐ จาก ม.ไสใหญ่ ทุ่งสง ผู้ที่เข้าบันทึกธรรมชาติของป่าวังหีบไว้มากที่สุด รู้เรื่องคุณค่าของป่าวังหีบในแง่ความโดดเด่นทางธรรมชาติที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นได้อย่างดี มีผลงานตีพิมพ์ในหนังสือ “นครศรีธรรมราช 2” เป็นที่ประจักษ์

พี่หน่อง ตัวแทนชาวบ้านที่เป็นผู้ถูกกระทบจากกรณีวังหีบ พี่หน่องมีฐานข้อมูลเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นในวาระต่างๆ ของวังหีบ มีเอกสารประกอบเป็นอย่างดีเยี่ยม

สามชั่วโมงที่ใช้เวลาพูดคุยในห้องรับรองของท่านผู้ว่า มีตัวแทนจากกรมชลฯ มาอีกสามท่าน

สองชั่วโมงแรกท่านผู้ว่าติดภารกิจ จึงให้ท่านรองผู้ว่าฯ ท่านถาวรวัฒน์ คงแก้ว เข้ามาพูดคุยแทนในฐานะที่เคยเป็น นอภ.ทุ่งสง ที่รับผิดชอบเรื่องนี้มาตลอด

ผ่านไปสองชั่วโมง ท่านผู้ว่าฯ เข้ามานั่งคุยด้วยจนครบสามชั่วโมงเต็ม

บรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีการถกกันในหลายประเด็น ผมพอสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้

1. ทางรัฐตั้งธง สร้างเขื่อนแน่นอน 100%

2. เมื่อตั้งธงแล้ว ในทางปฏิบัติจึงพยายามที่จะไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้ โดยมีอำนาจในมือตามรัฐเป็นเครื่องมือในการทำงาน

3. เสียดายที่รัฐ มีแต่กรอบความคิดว่า “สร้าง” จึงลืมมิติของการ “ทำลาย” ในความอ่อนไหวของธรรมชาติในทุกมิติ

4. รัฐ ไม่มีองค์ความรู้ที่ดีพอต่อประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมู่บ้านวังหีบที่ดูแลพื้นที่ของตัวเอง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน

5. แม้จะผ่าน EIA มาแล้ว แต่ประสบการณ์บอกให้เรารู้ว่า EIA ไว้ใจไม่ได้ ในแง่ถึงความหวังดีต่อทรัพยากรของชาติ เพราะการสำรวจเป็นไปด้วยความมุ่งหวังที่เพื่อช่องทางเดียว คือสำรวจเพื่อ “ให้ผ่าน” ให้ได้

6. ประเด็นข้อนี้สำคัญ มีการแต่งตั้งคณะทำงานโดยรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ (ทีม อ.ยักษ์) เพื่อสำรวจการสร้างเขื่อน ในหลายประเด็น เช่น การแก้น้ำท่วมทุ่งสง การใช้น้ำในการผลิตน้ำประปา การใช้น้ำในภาคเกษตรกรรม (ดูคลิปหน้าเฟซผมก่อนหน้านี้) ผลสรุปว่า “ไม่เหมาะที่จะสร้างเขื่อนวังหีบ”

https://www.facebook.com/sippapacha.fund/videos/2004918269593463/UzpfSTEwMDAwMDk2Mzk5MDMwNDoyMzc2NjY5NzM1NzA4NDcw/
 

 
7. ไม่มีการนำผลการศึกษาดังกล่าวมาขยายผลในแง่ “ทบทวน” หรือฉุกคิด ทั้งๆ ที่คณะทำงานชุดดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเอง

...บางครั้ง การผลักดันโครงการที่ฝืนความรู้สึกของผู้คนที่รักหวงแผ่นดิน มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้กับประเทศนี้ การกล่าวอ้างบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ดูเหมือนจะมีความชอบธรรมในการผลักดันโครงการต่อไป โดยไม่หันมาทบทวนเพื่อหาจุดที่ลงตัวที่ดีที่สุด

ผมมองว่านี่คือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

หยุดเถิดครับ...ผมร้องขอด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง
 


กำลังโหลดความคิดเห็น