กระบี่ - ตร.เกาะพีพี ประสาน ตม. หาเบาะแสชายต่างชาติเตะก้านคอสาวทอมบนเกาะพีพี คาดเดินทางออกจากเกาะพีพี ไปแล้ว ขณะที่เจ้าของร้านระบุนักท่องเที่ยวชกต่อยมั่วไปทั่ว หลังชกกับนักมวยที่ร้านแล้วแพ้
กรณี น.ส.ศศิธร สัตคม อายุ 27 ปี พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นำภาพ พร้อมคลิปวิดีโอมาโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำร้ายร่างกายบนเกาะพีพี เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุได้นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เกาะพีพี พร้อมเข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุตามที่ผู้เสียหายอ้าง พบเป็นแหล่งชุมชนย่านการค้าบนเกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง สอบถามจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ ทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวมีกันประมาณ 4 คน เป็นชาย 2 หญิง 2 คาดว่าเป็นชาวรัสเซีย เข้ามาเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยร้านที่ชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวเข้าไปเที่ยว คือ ร้านเรกเก้ คิกบ๊อกซ์ซิ่ง เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยมีเวทีมวยจัดแสดงโชว์มวยไทยให้ชาวต่างชาติชม
สอบถามจากนายอุดม เดชศักดา เจ้าของร้าน ทราบว่า ในคืนเกิดเหตุ กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการภายในร้าน จากนั้นชายคนหนึ่งในกลุ่ม ก็อยากจะขึ้นไปชกมวยบนเวทีกับนักมวยในร้าน พอขึ้นไปชกไม่ชนะก็ไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น โดยคนในร้าน ทั้งนักมวย พนักงาน และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็มาช่วยกันห้าม แต่ชายคนดังกล่าวก็ก่อเรื่องชกต่อยคนไปมั่ว นักมวยในร้านถูกต่อยไปด้วย ตนก็สั่งว่าอย่าไปตอบโต้ ปล่อยให้เขาอาละวาดไป และให้เชิญนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ออกจากร้านไป จากนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวก็ออกไปก่อเรื่องข้างนอกอีก ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุการณ์หลังจากนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ศศิธร คนที่ถูกนักท่องเที่ยวทำร้าย พบว่า ยังมีอาการบาดเจ็บตามคอและจมูก เนื่องจากถูกต่อยและเตะเข้าที่ก้านคอ พร้อมเล่าว่า ในคืนเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังขายอาหารอยู่หน้าร้าน ใกล้กับบาร์ที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนโวยวายกันดังมาก จึงเดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่ามีฝรั่งทะเลาะกัน แต่ตนไม่ได้เข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ ยืนดูอยู่ห่างๆ จากนั้นก็มีฝรั่งมีอายุมากหน่อย เดินผ่านมาที่ตน จากนั้นก็ชกใส่ตน 1 ทีจนล้มลง จากนั้นก็เตะเข้าที่ใบหน้าตนอีกที จนตนมีอาการมึนกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็เห็นว่ามีคนไทยใกล้ที่เกิดเหตุเข้ามาช่วยกันห้าม ก่อนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเดินหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
น.ส.ศศิธร เล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพี แต่ผ่านไปหลังจากเกิดเหตุ 3 วัน คดีก็ยังไม่คืบหน้า ตนก็เลยประสานไปยังตำรวจ ตม.ให้ช่วยติดตามให้ รวมทั้งพยายามสืบหาด้วยตัวเอง จนทราบว่าฝรั่งกลุ่มนี้พักที่ไหน แต่ทางโรงแรมไม่ยอมให้ความร่วมมือกับตน บอกปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลนักท่องเที่ยว สาเหตุที่ตนนำเรื่องนี้มาโพสต์ เพราะอยากให้เจ้าตัวมารับผิดชอบในส่วนของค่ารักษาพยาบาล เพราะตนมาทำงานที่นี่ก็เป็นเพียงลูกจ้าง ที่สำคัญอยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้ว่า การมาเที่ยวเมืองไทย ก็ควรเคารพสิทธิคนไทยด้วย ไม่ใช่มาทำร้ายคนในประเทศไทย แล้วกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากมองกลับกันถ้าคนไทยไปเที่ยวบ้านเขา แล้วไปทำร้ายเขา คนไทยก็ผิด เขามาเที่ยวไทย มาทำร้ายคนไทย ก็อยากให้เขารู้ว่าเขาก็ผิด
ด้านความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.วรวิทย์ ยามารี รรท.สวญ.สภ.เกาะพีพี กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุ หลังตำรวจรับแจ้งความ ก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวฝรั่งคนนี้ทันที แต่ยอมรับว่าตำรวจไม่มีข้อมูลมากพอในคืนเกิดเหตุ เนื่องจากตัวผู้เสียหาย ให้ข้อมูลได้ไม่มากนัก ตนประสานให้ตรวจสอบภาพวงจรปิดจากร้านค้า และร้านสะดวกซื้อ ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร จึงตรวจสอบตามคำให้การของคนเจ็บ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าทั้ง 4 คน เข้าพัก พาบุคคลต้องสงสัยตามภาพวงจรปิด มาให้เจ้าตัวชี้ยืนยัน ก็ไม่ตรงกับคนก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางตำรวจ สภ.เกาะพีพี กำลังประสานกับตำรวจ ตม.ให้ช่วยหาเบาะแส และเร่งสืบหาตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติไหน แต่ข้อมูลเท่าที่ได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นกลุ่มชาวรัสเซีย ส่วนว่าจะยังอยู่บนเกาะหรือไม่นั้น ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเดินทางออกจากเกาะไปแล้ว เพราะเวลาเกิดเหตุผ่านมาหลายวัน แต่ให้ทาง ตม.ตรวจสอบตามสนามบินต่างๆ หากพบบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งมาให้ทาง สภ.เกาะพีพี ทราบด้วย
กรณี น.ส.ศศิธร สัตคม อายุ 27 ปี พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นำภาพ พร้อมคลิปวิดีโอมาโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำร้ายร่างกายบนเกาะพีพี เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุได้นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เกาะพีพี พร้อมเข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุตามที่ผู้เสียหายอ้าง พบเป็นแหล่งชุมชนย่านการค้าบนเกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง สอบถามจากชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ ทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวมีกันประมาณ 4 คน เป็นชาย 2 หญิง 2 คาดว่าเป็นชาวรัสเซีย เข้ามาเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยร้านที่ชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวเข้าไปเที่ยว คือ ร้านเรกเก้ คิกบ๊อกซ์ซิ่ง เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยมีเวทีมวยจัดแสดงโชว์มวยไทยให้ชาวต่างชาติชม
สอบถามจากนายอุดม เดชศักดา เจ้าของร้าน ทราบว่า ในคืนเกิดเหตุ กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการภายในร้าน จากนั้นชายคนหนึ่งในกลุ่ม ก็อยากจะขึ้นไปชกมวยบนเวทีกับนักมวยในร้าน พอขึ้นไปชกไม่ชนะก็ไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น โดยคนในร้าน ทั้งนักมวย พนักงาน และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็มาช่วยกันห้าม แต่ชายคนดังกล่าวก็ก่อเรื่องชกต่อยคนไปมั่ว นักมวยในร้านถูกต่อยไปด้วย ตนก็สั่งว่าอย่าไปตอบโต้ ปล่อยให้เขาอาละวาดไป และให้เชิญนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ออกจากร้านไป จากนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวก็ออกไปก่อเรื่องข้างนอกอีก ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุการณ์หลังจากนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ศศิธร คนที่ถูกนักท่องเที่ยวทำร้าย พบว่า ยังมีอาการบาดเจ็บตามคอและจมูก เนื่องจากถูกต่อยและเตะเข้าที่ก้านคอ พร้อมเล่าว่า ในคืนเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังขายอาหารอยู่หน้าร้าน ใกล้กับบาร์ที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนโวยวายกันดังมาก จึงเดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่ามีฝรั่งทะเลาะกัน แต่ตนไม่ได้เข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ ยืนดูอยู่ห่างๆ จากนั้นก็มีฝรั่งมีอายุมากหน่อย เดินผ่านมาที่ตน จากนั้นก็ชกใส่ตน 1 ทีจนล้มลง จากนั้นก็เตะเข้าที่ใบหน้าตนอีกที จนตนมีอาการมึนกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็เห็นว่ามีคนไทยใกล้ที่เกิดเหตุเข้ามาช่วยกันห้าม ก่อนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเดินหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
น.ส.ศศิธร เล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะพีพี แต่ผ่านไปหลังจากเกิดเหตุ 3 วัน คดีก็ยังไม่คืบหน้า ตนก็เลยประสานไปยังตำรวจ ตม.ให้ช่วยติดตามให้ รวมทั้งพยายามสืบหาด้วยตัวเอง จนทราบว่าฝรั่งกลุ่มนี้พักที่ไหน แต่ทางโรงแรมไม่ยอมให้ความร่วมมือกับตน บอกปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลนักท่องเที่ยว สาเหตุที่ตนนำเรื่องนี้มาโพสต์ เพราะอยากให้เจ้าตัวมารับผิดชอบในส่วนของค่ารักษาพยาบาล เพราะตนมาทำงานที่นี่ก็เป็นเพียงลูกจ้าง ที่สำคัญอยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้ว่า การมาเที่ยวเมืองไทย ก็ควรเคารพสิทธิคนไทยด้วย ไม่ใช่มาทำร้ายคนในประเทศไทย แล้วกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากมองกลับกันถ้าคนไทยไปเที่ยวบ้านเขา แล้วไปทำร้ายเขา คนไทยก็ผิด เขามาเที่ยวไทย มาทำร้ายคนไทย ก็อยากให้เขารู้ว่าเขาก็ผิด
ด้านความคืบหน้าของคดี พ.ต.ท.วรวิทย์ ยามารี รรท.สวญ.สภ.เกาะพีพี กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุ หลังตำรวจรับแจ้งความ ก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวฝรั่งคนนี้ทันที แต่ยอมรับว่าตำรวจไม่มีข้อมูลมากพอในคืนเกิดเหตุ เนื่องจากตัวผู้เสียหาย ให้ข้อมูลได้ไม่มากนัก ตนประสานให้ตรวจสอบภาพวงจรปิดจากร้านค้า และร้านสะดวกซื้อ ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร จึงตรวจสอบตามคำให้การของคนเจ็บ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าทั้ง 4 คน เข้าพัก พาบุคคลต้องสงสัยตามภาพวงจรปิด มาให้เจ้าตัวชี้ยืนยัน ก็ไม่ตรงกับคนก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางตำรวจ สภ.เกาะพีพี กำลังประสานกับตำรวจ ตม.ให้ช่วยหาเบาะแส และเร่งสืบหาตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติไหน แต่ข้อมูลเท่าที่ได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นกลุ่มชาวรัสเซีย ส่วนว่าจะยังอยู่บนเกาะหรือไม่นั้น ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเดินทางออกจากเกาะไปแล้ว เพราะเวลาเกิดเหตุผ่านมาหลายวัน แต่ให้ทาง ตม.ตรวจสอบตามสนามบินต่างๆ หากพบบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งมาให้ทาง สภ.เกาะพีพี ทราบด้วย